ReadyPlanet.com
dot dot
วัฒนาสาธิตรักในหลวง  ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน  : โรงเรียนอนุบาลวัฒนาสาธิต และติวสาธิตครูจอย  รับเด็กเนอสเซอรี่ - เด็กอนุบาล 3  เตรียมสอบเข้าสาธิตมศว สาธิตจุฬา  สาธิตเกษตร  มาแตร์เดอี  วัฒนาสาธิต  และคาทอลิคชั้นนำ  สอบถามติดต่อ  02-3971172
dot
เราจะเป็นลูกที่ดีของในหลวง
dot
bulletพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
bullet20 ภาพประทับใจ
dot
แนะนำโรงเรียน
dot
bulletข้อมูลทั่วไป
bulletแนะนำผู้บริหาร
bulletสัมภาษณ์ผู้รับใบอนุญาต
bulletอาคารและสถานที่
dot
นวัตกรรมการศึกษา
dot
bulletMontessori
bulletWhole Language
bulletActivity Base Learning
dot
การรับประกันคุณภาพ
dot
ขอแสดงความยินดีกับ คณะครูและผู้ปกครองโรงเรียนอนุบาลวัฒนาสาธิต  ทางโรงเรียนผ่านการการรับรองมาตราฐานาการศึกษา รอบสาม  (พ.ศ.๒๕๕๔-๒๕๕๘)   ระดับดีมาก ค่า
dot
กิจกรรมต่าง ๆ
dot
bulletกิจกรรมวันสำคัญ
bulletกิจกรรมการเรียนการสอน
bulletกิจกรรมนอกสถานที่
bulletกิจกรรมทัศนศึกษา
bulletกิจกรรมช่วงปิดเทอม
bulletโครงการลดกล่อง แยกขยะ
dot
แฟ้มภาพกิจกรรมประจำปี
dot
bulletClip VDO กิจกรรมเด็ก
bulletโครงการประจำปี 2560
bulletโครงการประจำปี 2561
bullet โครงการประจำปี 2559
bulletโครงการประจำปี 2551
bulletประมวลภาพกิจกรรมย้อนหลัง
dot
คุยกับคุณครู
dot
bulletมาตราการรับมือ โรคมือ เท้า ปาก พันธุ์ Enterovirus
bulletคำถามยอดฮิต สำหรับผู้ปกครองใหม่
bulletเทคนิคติวเชาวน์ด้วยตนเอง
bulletกำหนดการสอบเด็กเล็กเครือสาธิตฯ
bulletแด่คุณพ่อ คุณแม่ .... จากใจคุณครูด้วยความเคารพ
bulletสองมือน้อย ๆ ช่วยกันลดโลกร้อน
dot
เยี่ยมชมโรงเรียน
dot
dot
Charity Corner
dot
bulletร่วมงานกับเรา
bulletApply Job
bulletผู้ปกครองสัมพันธ์
bulletแผนผังเวบไซต์


 ปฏิทินกิจกรรม
..Jan 2017..

เปิดรับสมัคร
นักเรียนใหม่ ปี 2560
ระดับเนอสเซอรี่
อายุ 1.6 - 3 ปี
เริ่มเรียนวันที่ 16 ม.ค.60
สอบถามรายละเอียดได้
ที่ฝ่ายธุรการ
โทร. 02-3971172

Open Enroll
For Nursery
ages 1.6 - 3 yrs
For Kindergarten 1-3
ages 3 - 6 yrs

more information
call 02-3971172

------------------

ติวสาธิตครูจอย ปี 60

คอร์สเตรียมพร้อมสู่ สาธิตมศว.
"สาธิตจุฬา สาธิตเกษตร"
เริ่ม 3 มิ.ย.60- 10 มี.ค.61
เปิดรับ 2 รอบ
คอร์สเช้า 10.30-12.30 น.
คอร์สบ่าย 14.00 -16.00 น.
เปิดจองแล้วคะ
------------------
คอร์สตะลุยโจทย์ ก.พ.60
"เตรียมพร้อมสู่สาธิต 60"
เริ่ม 5 ก.พ.- 11 มี.ค.60
คอร์สเช้า 10.30-12.30 น.
สำหรับสาธิตมศว
คอร์สบ่าย 14.00-16.00 น.
สำหรับสาธิตจุฬา
เปิดรับจองแล้วคะ

สอบถามเพิ่มเติม
โทร. 02-3971172

Satit Exam Program
Preparing course
For K2, K3 student
ready for Grade 1

More information
contact school
Tel:02-3971172 ,
086-5758882
------------------

ติดต่อโรงเรียน
โทร. 02-3971172
และ 086-5758882

------------------
โรงเรียนอนุบาลวัฒนาสาธิต อนุบาลสองภาษา   จัดกิจกรรมเสริมทักษะทางเชาวน์ปัญญา (เตรียมสอบเข้า ป.1 , ติวสาธิต)  และภาษา ทุกวันเสาร์
www.wattanasatit.com  : ศูนย์รวมการศึกษาและการท่องเที่ยว ทัศนศึกษานักเรียน ศึกษาต่อ  เรียนภาษาระยะสั้น เรียนต่อต่างประเทศ ซัมเมอร์คอร์สปิดเทอม ฝึกงาน ดูงานต่อประเทศ ทัศนศึกษา ท่องเที่ยว ไทยเที่ยวไทย ตั๋วเครื่องบิน


หลักสูตรการศึกษาพิเศษ


 Play  Plearn  Learn  and  Fun with Wattanasatit Pre-school Program  

                                  

หลักสูตรการศึกษาพิเศษ สำหรับเด็กความต้องการพิเศษ

 

 

 

 

 

 

 

           โรงเรียนอนุบาลวัฒนาสาธิต เปิดหลักสูตรสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบัน มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อม และพัฒนาศักยภาพของเด็กสู่การเรียนร่วม โดยเด็กกลุ่มนี้จะได้รับการส่งเสริมให้มีพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เพื่อให้มีความพร้อมในการเรียนรู้ และสามารถปรับตัวให้อยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง และแพทย์หรือผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น นักจิตวิทยา นักกายภาพบำบัด นักวจีบำบัด ฯลฯ โดยใช้ "แผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (I.E.P. - Individual Education Plan)" ที่คำนึงถึงความต้องการ และความเหมาะสมกับความสามารถของเด็กเป็นรายบุคคล ตลอดจนการใช้สื่ออุปกรณ์ และวิธีการของมอนเตสซอรี่ ที่เน้นการใช้ประสาทสัมผัส และการเคลื่อนไหวเพื่อการเรียนรู้ในการจัดสภาพแวดล้อม และกิจกรรมต่างๆให้เหมาะสมสอดคล้องและต่อเนื่องโดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล เพื่อช่วยส่งเสริม และพัฒนาทักษะด้านต่างๆให้กับเด็ก เช่น ทักษะกลไกกล้ามเนื้อมัดใหญ่-มัดเล็ก การช่วยเหลือตนเอง สมาธิ การใช้ภาษา และการสื่อความหมาย ตลอดจนการเตรียมความพร้อมทางด้านวิชาการ ส่งเสริมให้เด็กได้มีโอกาสพัฒนาเต็มศักยภาพ เพื่อให้มีอิสระในการดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยมีรูปแบบการจัดดังนี้

 

 
จัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (I.E.P. - Individual Education Plan) โดยความร่วมมือระหว่าง ครู ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องกับเด็ก เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพ และส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา

 

 
 
จัดการเรียนการสอนแบบมอนเตสซอรี่โดยใช้ประสาทสัมผัส และการเคลื่อนไหว เพื่อการเรียนรู้ จัดอุปกรณ์ กิจกรรม ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ตาม "แผนการศึกษาเฉพาะบุคคล" ที่ได้ระบุไว้โดยมีครูคอยช่วยเหลือในเบื้องต้น แล้วค่อยๆลดการช่วยเหลือลง จนเด็กสามารถทำงาน และปฏิบัติกิจกรรมได้เองในที่สุด

 

 
 
 
เตรียมความพร้อมสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษให้เข้าสู่ "ภาวะปกติ" เพื่อให้สามารถเข้าเรียนร่วมกับเด็กในห้องเรียนปกติให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ (สำหรับการสอนแบบมอนเตสซอรี่แล้ว เด็กที่อยู่ในภาวะปกติควรมีลักษณะดังนี้คือ มีสมาธิในการทำงาน มีวินัยในตนเอง ทำงานอย่างมีความสุข เชื่อฟัง และรักการเรียนรู้


 

 เกณฑ์การพิจารณารับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ

 

อายุระหว่าง 1 - 6 ปี

 

มีพัฒนาการล่าช้าหรือมีความบกพร่องทางสติปัญญา และ/หรือ การปรับตัว

 

มีพัฒนาการทางด้านสังคม และการสื่อสารไม่สมวัย

 

มีรายงานทางการแพทย์

 

ผู้ปกครองพร้อมเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็ก

 

เด็กได้รับการสำรวจพัฒนาการด้านต่างๆจากโรงเรียนตามเกณฑ์ที่กำหนด

 

ผู้ปกครองพร้อมให้ความร่วมมือ โดยการประสานงานร่วมกับทางโรงเรียน และแพทย์หรือผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งรายงานผลให้ทางโรงเรียนได้ทราบเป็นระยะ

   รู้จักเด็กที่มีความต้องการพิเศษ   

      กลุ่มเด็กที่ไม่สามารถพัฒนา ความสามารถ ได้เต็มตามศักยภาพที่มีอยู่ได้ด้วยวิธีการปกติ ตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น การเลี้ยงดูตามปกติ หรือการเรียนการสอนตามปกติทั่วไป เนื่องจาก ข้อจำกัดบางประการที่มีอยู่ในตัวเด็กทางด้าน ร่างกาย สติปัญญา พฤติกรรม อารมณ์ หรือ สัมพันธภาพทางสังคม ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมี วิธีการพิเศษเพิ่มเติมจากการเรียนรู้ตามธรรมชาติ ของเด็ก เพื่อช่วยให้เด็กมีศักยภาพเต็มตามที่มีอยู่ได้

มีหลายมุมมองทางความคิดเกี่ยวกับแนวทางการดูแลเด็กพิเศษ ซึ่งไม่มีผิด ไม่มีถูก เพียงต้องมีการทบทวนความคิดอย่างเข้าใจ และพัฒนามุมมองเราเองให้ถูกต้องตามที่เห็นว่าควรเป็น

บางคนมองว่า "อย่าไปบังคับเด็กเลย สงสารเด็ก"
บางคนก็มองว่า " ทำไมไม่ฝึกเด็กล่ะ เดี๋ยวก็ทำอะไรไม่เป็นหรอก"
บางคนก็มองว่า " เด็กก็ทำได้แค่นี้ จะไปเอาอะไรมากมาย"
บางคนก็มองว่า "เดี๋ยวโตขึ้นก็ดีเอง อย่าไปกังวลเกินเหตุ"
บางคนก็มองว่า " ต้องทุ่มเทฝึกกระตุ้นเด็กให้เต็มที่เท่าที่มีแรงทำ"

แนวทางการดูแลเด็กพิเศษ ไม่ว่าจะไปในทิศทางใดก็ตาม ถ้าเริ่มต้นจากการดูแลด้วยความรัก แล้วค่อย ๆ พัฒนาด้วยความเข้าใจ ก็จะไปสู่จุดหมายปลายทางของการทำให้เด็ก มีการพัฒนาเต็มตามศักยภาพที่มีอยู่ได้ ไม่ยาก

การดูแลด้วยความรัก ก็คือสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนมีอยู่ เต็มเปี่ยมอยู่แล้ว แต่ที่นำมาเน้นย้ำ เนื่องจากในความรักที่มี อยู่นี้ มักจะถูกบดบังด้วยความเครียด ความวิตกกังวล ความเบื่อหน่าย ความท้อแท้ และความรู้สึกอื่น ๆ อีก มากมาย ในบางช่วงเวลา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดความรู้สึกต่าง ๆ ขึ้นมาได้ในการดูแล แต่จำเป็นต้องหาวิธีจัดการความรู้สึกต่าง ๆ อย่างเหมาะสมต่อไป


 แนวทางช่วยเหลือเด็กที่มีความต้องการพิเศษ  สำหรับผู้ปกครอง 

         
       การสอนแบบมอนเตสซอรี่ เป็นแนวทางหนึ่งที่พ่อ-แม่ และครูสามารถนำไปใช้พัฒนาช่วยเหลือลูกได้ทั้งที่บ้าน และที่โรงเรียน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย โดยมีหลักการจัดสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องได้ ดังนี้
มอนเตสซอรี่เชื่อว่า เด็กควรมีอิสระมากที่สุดทั้งในการเคลื่อนไหว และการศึกษาหาความรู้ สภาพแวดล้อมที่ผู้ใหญ่จัดเตรียมให้เด็กมีส่วนสำคัญมากต่อการพัฒนา และการเรียนรู้ของเด็ก คำพูด และการกระทำของผู้ใหญ่มีผลกระทบโดยตรงต่อเด็ก สิ่งต่างๆที่เด็กรับรู้ และเรียนรู้มาจากสภาพแวดล้อม และคนรอบข้าง ดังนั้นเด็กจึงควรมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดผู้ใหญ่ เรียนรู้โลกภายนอก วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และภาษาจากคนรอบข้าง หากเด็กไม่สามารถอยู่ใกล้ชิดกับพ่อ-แม่ได้ เด็กควรมีโอกาสได้อยู่กับปู่ ย่า ตา ยาย ป้า น้า อา หรือพี่เลี้ยง แม้กระทั่งเด็กเล็กๆที่ยังพูดไม่ได้ก็ต้องการความใกล้ชิดกับบุคคลดังกล่าวข้างต้นเพื่อการเรียนรู้เช่นกัน

การกำหนดขอบเขตในการให้อิสระแก่เด็กนั้น ผู้ใหญ่ควรสังเกตด้วยว่าหากเด็กทำผิดบ่อยครั้ง และไม่สามารถทำตามกฎระเบียบที่ผู้ใหญ่จัดวางไว้ให้ได้ กฎระเบียบนั้นอาจไม่เหมาะสมกับวัยของเด็ก หรือลักษณะนิสัยของเด็ก ความเข้าใจที่ผู้ใหญ่มีให้กับเด็กจะทำให้ผู้ใหญ่สามารถปรับกฎกติกาให้สอดคล้องกับเด็ก เพื่อการอยู่ร่วมกันได้ราบรื่นขึ้น นอกจากนี้การหมั่นฝึกสอนเด็กถึงวิธีการที่ถูกต้อง จะดีกว่าการปล่อยให้เด็กทำผิดแล้วต้องคอยแก้ไข ผู้ใหญ่ต้องใจเย็น และแสดงสิ่งที่ถูกต้องให้เด็กดูเป็นแบบอย่าง รวมทั้งกระตุ้นเตือน และให้เหตุผลจนกว่าเด็กจะเข้าใจ และรับรู้ว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการคืออะไร เป็นการช่วยฝึกระเบียบวินัยให้กับเด็กอีกทางหนึ่ง
เด็กเล็กๆสามารถพัฒนาการเรียนรู้ได้ดีที่สุด จากการกระทำ และจากการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5 เด็กที่ถูกเลี้ยงไว้ให้อยู่ในบริเวณจำกัด และมีโอกาสเคลื่อนไหวได้น้อย จะมีโอกาสพัฒนาได้น้อยกว่าเด็กที่ได้รับอิสระในการเคลื่อนไหว ดังนั้นสิ่งที่ผู้ใหญ่ควรจัดการกับสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็ก คือ
ประการแรก จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย จนกว่าเด็กจะโตพอที่จะรับรู้ถึงอันตรายต่างๆที่อาจมีขึ้น เช่น ปลั๊กไฟ
ประการที่สอง นำเครื่องแก้วราคาแพงหรือข้าวของที่จะเสียหายออกไปจากบริเวณที่จะให้เด็กอยู่
ประการที่สาม หากเป็นไปได้ควรจัดเครื่องใช้ให้เหมาะสมกับเด็ก และเอื้อต่อการให้เด็กช่วยเหลือตัวเองมากที่สุด เช่น กางเกงที่มีเอวเป็นยางยืด เสื้อที่มีกระดุมเม็ดใหญ่เหมาะสำหรับมือเล็กๆ รองเท้าชนิดติดแป๊ะแทนการผูกเชือก เลือกโต๊ะ เก้าอี้ ที่มีขนาดเหมาะสม และน้ำหนักเบาพอที่เด็กจะเคลื่อนย้ายได้เอง แก้วน้ำ เหยือกน้ำ จาน ชาม มีขนาดเหมาะสมสอดคล้องกับเด็ก ฯลฯ เป็นการเปิดโอกาส และสนับสนุนการช่วยเหลือตัวเองให้กับเด็กมากที่สุด เด็กจะเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในสิ่งที่ทำได้ และมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว และต่อโรงเรียน รู้สึกว่าตนเอง มีคุณค่า และมีความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง
การเรียนรู้ของเด็กที่มีความต้องการพิเศษจะก้าวหน้าไปอย่างช้าๆ จึงต้องอาศัยความมานะอดทน และความพยายามในการฝึกสอน โอกาส และเวลาเป็นสิ่งจำเป็น การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ทั้งอุปกรณ์ และสถานที่ การแนะนำ และสาธิตการใช้อุปกรณ์ ตลอดจนการให้อิสระในการทำงานหรือการทำงานนั้นซ้ำๆ โดยพ่อ-แม่ และครูต้องกระตุ้นเตือนให้ความช่วยเหลือในระยะแรกของการฝึก แล้วจึงค่อยๆลดความช่วยเหลือลง จนในที่สุดเปิดโอกาสให้เด็กทำได้เอง โดยการฝึกนั้นควรจะฝึกจากส่งที่ง่ายไปสู่สิ่งที่ยากอย่างเป็นขั้นตอน ดังนั้น "การเรียนรู้ การสอนซ้ำ การสอนสนุก และการสอนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เด็ก และตัวท่านเองมีความสุขกับการเรียนรู้ร่วมกัน"

 

 







Copyright © 2010 All Rights Reserved.
@โรงเรียนอนุบาลวัฒนาสาธิต 34 ซ.วชิรธรรมสาธิต 55 หมู่บ้าน อิมพีเรียล พาร์ค สุขุมวิท 101/1 พระโขนง กทม. โทร. 02-7464991