ReadyPlanet.com


ลูกใครหนอพ่อแม่ไม่สั่งสอน
avatar
Admin


ลูกใครหนอพ่อแม่ไม่สั่งสอน


โดย: ชนะ เสวิกุล

เป็นหน้าที่หลักของพ่อแม่ทุกคนที่จะต้องอบรมสั่งสอนลูกตัวเอง

ประโยคข้างบนนี้รู้ๆ กันดีว่า เป็นคำปรามาสที่แรงเอาการอยู่ ใครถูกด่าแบบนี้ให้สันนิษฐานไว้ก่อนได้เลยว่า เจ้าตัวคงต้องไปทำอะไรแย่ๆ จนคนที่ด่าเขาเหลืออดเหลือทน ซึ่งส่วนใหญ่คนที่ด่านั้นก็มักจะมีอันต้องเจ็บตัวไม่มากก็น้อย เนื่องจากคนที่ถูกด่าเองอาจจะเหลืออดเหลือทนเช่นกัน

ก็แหม พ่อแม่ใครใครก็รักกันทั้งนั้น อยู่ๆ เอามาใช้ประกอบการด่าแบบนี้ใครจะไปยอม

แต่ผู้ที่ถูกกล่าวพาดพิงคือบรรดาพ่อแม่ทั้งนั้นกลับไม่ได้รู้สึกรู้สาลุก ขึ้นมาประท้วงให้ถอนคำพูดหรือออกแถลงข่าวให้สัมภาษณ์ตอบโต้ใดๆ ทั้งสิ้น

เพราะตอนที่เขาด่านั้นตัวเองไม่ได้ยิน..

หรือถ้าเผอิญได้ยินเข้า ก็คงจะพูดแก้ต่างให้พ้นตัวไปว่า ?..สอนแล้วแต่มันไม่ยอมจำ(โว้ย)..?
    
อันที่จริงถ้าหากว่าลูกหลานใครเกิดไม่รักดีหรือไม่มีอะไรจะทำ เอาแต่ก่อความรำคาญสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเขาโดยเห็นเป็นเรื่อง สนุกสนาน เช่น แข่งมอเตอร์ไซด์กันบนถนนหลวงตอนดึกดื่นเที่ยงคืนซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อ ชีวิตทรัพย์สินทั้งของตัวเองและของผู้อื่นที่เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แถมยังส่งเสียงดังสนั่นปลุกชาวบ้านร้านตลาดที่กำลังนอนหลับพักผ่อนกันอยู่ หลังจากที่ทำงานหนักมาทั้งวัน
    
เมื่อต้องมาเดือดร้อนรำคาญเพราะเรื่องไร้สาระจากพวกไร้สาระอย่างนี้ เป็นใครก็ต้องหงุดหงิดเสียจนต้องด่าฝากไปถึงพ่อแม่ของเหล่าสิงห์นักบิดผิดกา ละเทศะนั่นเป็นธรรมดา
    
เพราะมันเป็นหน้าที่หลักของพ่อแม่ทุกคนที่จะต้องอบรมสั่งสอนลูกตัวเองให้รู้ ว่าอะไรบ้างที่ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ อะไรผิดอะไรชอบ อะไรที่ผิดแม้ว่าจะชอบมากๆ ฯลฯ
    
เท่าที่รู้ที่เห็นมา มีพ่อแม่ส่วนหนึ่งลืมไปว่านี่เป็นงานของตัว หลงนึกไปว่าเป็นหน้าที่ของทีวี วิทยุ หนังสือ คนอื่น หมู่บ้าน ฯลฯ ซึ่งส่งผลให้เกิดพฤติกรรมตอบสนองเป็นสองประเภท
    
ประเภทแรกจะออกมาต่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างว่าเป็นตัวการทำให้ลูกเสีย ต่อว่าหนังแอ็คชั่น ต่อว่าเพลงรัก ต่อว่าคนรอบข้างที่พูดไม่สุภาพ ต่อว่าสังคม ฯลฯ เหลืออยู่อย่างเดียวที่ไม่ต่อว่าคือตัวเอง
    
ประเภทนี้จะเหนื่อยมาก เพราะต้องคอยต่อว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลาไม่สิ้นสุด แถมแสบคอเก้อโดยไม่ได้แก้ปัญหาเลยสักนิดเพราะลูกก็ยังรับยังรู้ยังสัมผัสไอ้ เรื่องที่ว่านั่นได้ทุกเรื่อง
    
ส่วนประเภทที่สองนั้นก็จะปิดกั้นลูกจากทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่าเป็นตัวการ ทำให้ลูกเสีย ปิดกั้นหนังแอ็คชั่น ปิดกั้นเพลงรัก ปิดกั้นคนรอบข้างที่พูดไม่สุภาพ ปิดกั้นสังคม ฯลฯ
    
ประเภทนี้ก็เหนื่อยเหมือนกัน แถมลูกอาจจะกลายเป็นคนที่ไร้เดียงสาอ่อนโลก เพราะไม่เคยพบเจอโลกภายนอก ไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ฝึกการแก้ปัญหาเพื่อเอาตัวรอดจากเรื่องเหล่านั้น
    
แทนที่จะต่อว่าหรือปิดกั้นอย่างเดียว จะไม่ดีกว่าหรือถ้าเรานั่งอยู่ใกล้ลูก ใช้เวลาใกล้ชิดกับลูก คุยกับลูก ตอบคำถามลูกเพื่อบอกเพื่อสอนเขาให้รู้จักแยกแยะสิ่งดีเลว สอนให้เขารู้จักวิธีหลบเลี่ยงหลีกหนีจากสิ่งมอมเมาต่างๆ
    
ดูหนังกับลูก ฟังเพลงกับลูก อ่านหนังสือกับลูก ฯลฯ อยู่เคียงข้างคอยเป็นที่ปรึกษาให้เขา
    
เหมือนที่ใครสักคนเคยบอกไว้ว่า เราอาจจะทำให้พื้นโลกมันอ่อนนุ่มราบเรียบไร้หลุมบ่อไม่ได้
    
แต่เราสามารถทำรองเท้านุ่มๆ ไว้ใส่เดินได้



จาก: นิตยสารรักลูก


ผู้ตั้งกระทู้ Admin :: วันที่ลงประกาศ 2009-08-21 00:13:20 IP : 124.122.176.232


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2106799)
avatar
miaeer

lace hair wigs jessica simpson hair human hair wigs Processed wigs care instructions As with naturally human hair wiglets bohyme hair extensions.

ผู้แสดงความคิดเห็น miaeer (grace-at-mail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-10 18:58:36 IP : 125.126.157.28



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.