เคล็ดลับสุขภาพดีทั้งครอบครัว
Admin	The Secret for Good Health เคล็ดลับสุขภาพดีทั้งครอบครัว...คุณสร้างได้  โดย อาราดา ณ วินาทีนี้ ถ้ามีนางฟ้ามายืนอยู่ตรงหน้าแล้วให้คุณขอพรได้ 3 ข้อ เชื่อว่าเต็งหนึ่งในนั้นที่ทุกคนต้องขอก็คือ เรื่องของสุขภาพแข็งแรงค่ะ อ๊ะ! แต่ถ้าชีวิตจริงไม่มีทั้งนางฟ้าและฐานะก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร เราจะมีสุขภาพดีได้มั้ยนะ คำตอบคือได้ค่ะ ถ้าคุณอ่านสกู๊ปฉบับนี้ที่จะเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพของเจ้าตัวน้อยและสมาชิกทุกคนในครอบครัว ที่สำคัญยังช่วยคุณประหยัดเงินที่ต้องเสียไปกับการซ่อมสุขภาพได้อีกด้วย อย่างไร...เรียกสุขภาพดี เรามักจะเอ่ยถึงสุขภาพในแง่ของการเจ็บไข้ได้ป่วย ไปหาหมอและกินยา นั่นก็ถูกค่ะ แต่แท้ที่จริงแล้ว เรื่องสุขภาพดียังเกี่ยวข้องกับอีกหลายแง่มุมค่ะ * องค์การอนามัยโลก ได้ให้นิยามว่า ‘สุขภาพดี’ หมายถึง ความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ คุณภาพชีวิต รวมไปถึงไม่มีโรคภัยไข้เจ็บด้วย * นพ. เฉก ธนะสิริ ผู้ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นคนสุขภาพดี ด้วยวัย 82 ปีที่ยังกระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว และเขียนหนังสือถ่ายทอดประสบการณ์การดูแลสุขภาพไว้หลายเล่ม อาทิ ทำอย่างไรจะปราศจากโรคและชะลอความชรา ทำอย่างไรชีวิตจะยืนยาวและมีความสุข ชีวิตนี้มหัศจรรย์และพิสดารยิ่งนัก เป็นต้น ได้ให้ข้อสรุปว่าสุขภาพดีก็คือ การไม่มีโรค จิตใจดี และมีเงินจับจ่ายใช้สอยตามสมควร * พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มาตรา 3 ระบุว่า “สุขภาพ หมายความว่า ภาวะของมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางกาย ทางจิต ทางปัญญา และทางสังคม เชื่อมโยงกันเป็นองค์รวมอย่างสมดุล ที่ยกตัวอย่างมามากมายก็เพื่อให้เห็นว่า สุขภาพดีนั้นมีหลายมิติและหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกันอย่างที่เรานึกไม่ถึงทีเดียวค่ะ ซึ่งก็พอจะสรุปได้ดังนี้ 1. สุขภาพกาย ข้อนี้พอจะนึกกันออกใช่มั้ยคะ เพราะคงไม่มีใครอยากเจ็บป่วย แม้จะเป็นแค่อาการปวดหัว ตัวร้อนหรือเป็นไข้หวัดธรรมดาก็ตาม แต่จากข้อมูลสุขภาพคนไทย 2550 ซึ่งจัดทำโดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า แม้แนวโน้มการเจ็บป่วยด้วยโรคจากการประกอบอาชีพจะลดลง แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ สารพิษตกค้างบางประเภท โดยเฉพาะสารกำจัดศัตรูพืชที่สะสมในร่างกายของเกษตรกร แล้วถ้าให้นึกภาพต่อ ก็คงพอเดาออกนะคะว่าอาหารที่เรากินเข้าไปทุกวันจะส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ ข้อมูลในปี 2548 ยังระบุอีกว่า โรคประจำตัวของคนไทยที่มาแรงสุดๆ คือ โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคอื่นๆ ในกลุ่มนี้ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด โรคสมองขาดเลือดจากหลอดเลือดตีบหรือหลอดเลือดแตก ซึ่งพฤติกรรมที่ทำให้เสี่ยงต่อโรคเหล่านี้ก็คือการกินที่ทำให้เกิดความอ้วน ความดันโลหิตและระดับโคเลสเตอรอลสูง รวมถึงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์และออกกำลังกายไม่เพียงพอนั่นเองค่ะ 2. สุขภาพจิต เชื่อมั้ยคะว่า... อาการป่วยหลายอย่างเกิดขึ้นเพราะใจสั่งมา บางคนมีอาการที่ไม่สามารถระบุชื่อโรคได้ เช่น ปวดหัว เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว เป็นผื่นขึ้นตามตัวเมื่อเกิดความกังวล ทำให้ต้องหาซื้อยามากินเพื่อแก้อาการนั้นอยู่เป็นประจำ คุณหมอเฉกอธิบายว่า “...คนที่เครียดหรือคนที่มีความทุกข์วิตกกังวล จิตใจไม่สบาย เพราะปัญหาชีวิต ปัญหาครอบครัวและลูก คือที่มาของโรค เพราะทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายตก ทีนี้ก็แล้วแต่ว่าเชื้อโรคไหนจะเข้ามา อีกอย่างหนึ่งคือคนไม่ดีมักจะเจ็บป่วยหรือมีเหตุอันเป็นไปตามบุญตามกรรมของเขา แล้วปัญหาก็จะลามไปถึงสุขภาพจิตลูกหลานด้วย สังเกตดูเถอะ คนจิตใจดี คนมีคุณธรรม เขาจะมีความสุข ไม่ค่อยเจ็บป่วย เพราะมันส่งผลทำให้ระดับภูมิต้านทานโรคในร่างกายเพิ่มขึ้นด้วย...” ต่อให้กัดฟันปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เครียด แต่ผลสำรวจความชุกของโรคจิตเวชระดับชาติปี 2546 โดยกระทรวงสาธารณสุขก็เป็นสิ่งยืนยันว่าคนไทย 1 ใน 5 กำลังมีทุกข์ทางใจ เนื่องจากต้องเผชิญกับโรคทางจิตเวช เพราะมีคนไทยเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว 1.8 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นโรคซึมเศร้าชนิดรุนแรงถึง 1.3 ล้านคนและพบในผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ นี่ยังไม่นับรวมคนที่มีภาวะเป็นโรควิตกกังวล โรคจิต และโรคผิดปกติทางอารมณ์ และกลุ่มเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายนะคะ ส่วนคนที่ยังไม่ถึงขั้นเป็นโรคทางจิตเวชก็จะมีอาการเครียด โดยมีสาเหตุหลักมาจากเรื่องเศรษฐกิจ รองลงไปคือครอบครัว และเรื่องงาน แหม!...รู้แค่นี้ก็เริ่มเครียดแล้วใช่มั้ยคะ 3. สุขภาพปัญญา ใน พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติ ได้พูดถึง "สุขภาพปัญญา คือ ความรู้ทั่ว รู้เท่าทันและความเข้าใจอย่างแยกได้ในเหตุผลแห่งความดี ความชั่ว ความมีประโยชน์และความมีโทษ ซึ่งนำไปสู่ความมีจิตอันดีงามและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่" ที่สำคัญสุขภาพปัญญายังเกี่ยวข้องกับพัฒนาการทางสมองด้วยค่ะ สำหรับเจ้าตัวเล็กแล้ว สมองในส่วนเหตุผลยังเติบโตไม่เต็มที่ จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องรู้เท่าทันข้อมูลสุขภาพ โดยเฉพาะโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้วช่วยชี้แนะ ฝึกทักษะรวมทั้งปลูกฝังนิสัยรักสุขภาพไปด้วย เพราะนี่คืออีกวิธีหนึ่งในการมอบพื้นฐานการดำเนินชีวิตที่จะอยู่ติดตัวลูกตลอดไป ส่วนบ้านไหนที่มีผู้สูงอายุก็ต้องระวังโรคสมองเสื่อมกันหน่อยแล้ว เพราะถึงแม้โรคนี้จะเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนใหญ่มักเกิดกับผู้สูงอายุ จากสถิติในปี 2548 มีคนไทยที่อยู่ในภาวะนี้ถึง 229,000 คน คาดว่าจะเพิ่มเป็น 450,000 ในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยโรคนี้จะทำให้สูญเสียความคิด ความทรงจำ รวมทั้งการตัดสินใจด้วย และต้องใช้ผู้ดูแลอย่างน้อย 2 คน ผลัดเปลี่ยนกัน ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตประจำวันของคนในครอบครัวทั้งสิ้น 4. สุขภาพสังคม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การที่เราจะมีสุขภาพดีได้นั้น จำเป็นต้องอยู่ในสังคมและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตที่ดีและเป็นสุขด้วย ลองคิดดูว่า ถ้าได้อยู่ในสังคมต่อไปนี้ สุขภาพของเจ้าตัวเล็กและทุกคนในบ้านจะเป็นอย่างไร * อนุญาตให้พาลูกมาเลี้ยงที่ออฟฟิศได้ แถมมีเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลระหว่างวัน * โฆษณาสินค้าตรงกับคุณภาพ มีคำเตือนเรื่องสุขภาพอย่างชัดเจน * โรงงานอุตสาหกรรมมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐาน และไม่อยู่ใกล้แหล่งชุมชนจนเกินไป * ประชาชนมีรายได้พอเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ถ้าทำได้อย่างที่ว่ามาก็จะทำให้เราสุขภาพดีไปด้วย แต่ในความเป็นจริงตอนนี้คือคนไทยมีค่าใช้จ่ายและหนี้สินเพิ่มขึ้น และ 1 ใน 3 ของหนี้สินนั้น ไม่ก่อให้เกิดรายได้ตามมา เช่น กู้เงินมาเพื่อใช้ในครัวเรือน นอกจากนี้ข้อมูลปี 2547 ยังพบว่า 1 ใน 3 ของครอบครัวไทยมีรายจ่ายหมดไปกับการเล่นพนันบอล เด็กและวัยรุ่นใช้เวลาวันละ 8 ชั่วโมงหมดไปกับการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ หรือไม่ก็แชต ดูซีดี อินเตอร์เน็ต ฟังเพลง ส่ง SMS หลายเรื่องเราสามารถสร้างสิ่งแวดล้อมเพื่อสุขภาพด้วยตัวเองได้ เช่น ปรับพฤติกรรม ทำบัญชีครัวเรือน แต่ก็ต้องอาศัยการผลักดันนโยบายระดับชาติควบคู่ไปด้วย ซึ่งตาม พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติ 2550 ได้ระบุไว้ว่า เรามีสิทธิที่จะดำรงชีวิตในสิ่งแวดล้อมและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีและมีหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานของรัฐ ทำให้เกิดสิ่งแวดล้อมและสภาพแวดล้อมที่ดี ซึ่งทั้งหมดนี้จะดำเนินตามกรอบของธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติค่ะ แล้วคุณๆ ล่ะคะ...เช็กสุขภาพกาย ใจ ปัญญาและสิ่งแวดล้อมของตัวเองและสมาชิกในบ้านหรือยัง?!? 5 Secrets for Good Health 1. Exercise...ขยับกายเพื่อสุขภาพ มีผลกระทบน่าตกใจเกี่ยวกับการไม่ออกกำลังกายมาฝาก เผื่อคุณจะใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจฮึดขึ้นมาออกกำลังเสียที ถ้าคุณไม่อยากจะ * อวัยวะเสื่อมและเป็นโรคหลายชนิด เพราะอวัยวะหลายระบบถูกใช้งานน้อย โดยเฉพาะข้อต่อตามร่างกาย * มีไขมันสะสมทำให้อ้วน ซึ่งเป็นสาเหตุของเบาหวาน ความดันโลหิต โรคหัวใจ เส้นเลือดอุดตัน ฯลฯ * มีอาการของโรคทางระบบประสาท อาทิ ใจสั่น เป็นลมบ่อย เหงื่อออกตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า ฯลฯ * มีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุน ซึมเศร้าและอีกสารพัดโรคในคนทุกเพศทุกวัย ส่วนวิธีออกกำลังให้ได้ผลคุณหมอเฉกบอกว่า "...การเล่นฟุตบอล แบดมินตัน เทนนิส ตีกอล์ฟ เล่นบาสเก็ตบอล เล่นรักบี้ ถือเป็นการออกกำลังอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ทำให้หัวใจเต้นดี แต่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่ง ดร.เคนเน็ท เฮช คุปเปอร์ บอกว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เดินเร็วๆ วิ่งเหยาะๆ หรือว่ายน้ำ ถีบจักรยาน เพียงครึ่งหรือค่อนชั่วโมงก็พอ จะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นโดยสม่ำเสมอ ทำให้มีออกซิเจนเข้าสม่ำเสมอด้วย กล้ามเนื้อหัวใจที่เคยแฟบก็จะแข็งแรงขึ้นเหมือนกับเรามีปั๊มฉีดเลือดไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ในสมอง ในทุกอวัยวะ ร่างกายจึงแข็งแรง เพราะฉะนั้น จำไว้ว่าถ้าคุณอยากมีแรงก็ต้องออกแรง อยากมีกำลังก็ต้องออกกำลัง ไม่มีวิธีไหนจะทำให้คุณมีแรงมีกำลังได้ หากคุณไม่ยอมใช้แรง” ได้ฟังคุณหมอแนะนำแล้ว สรุปได้ว่า วิธีหนึ่งที่ช่วยให้สุขภาพดีได้ก็คือ ต้องออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที หรือลองสังเกตง่ายๆ นะคะ ถ้าคุณเคลื่อนไหวร่างกายในการทำงาน การเดินทางและการออกกำลังกายในระดับที่ใช้แรงปานกลางน้อยกว่า 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือออกกำลังกายอย่างหนักน้อยกว่า 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ถือว่ายังไม่เพียงพอค่ะ ส่วนจะใช้วิธีไหนเพื่อขยับร่างกายเพิ่มก็ขอให้เลือกตามชอบดีกว่า จะได้ไม่ฝืนทนจนเบื่อเอาได้ง่ายๆ 2. Healthy Eating... กินเพื่อสุขภาพ กินดีช่วยให้มีสุขภาพดี มีเรี่ยวแรงทำงาน อารมณ์แจ่มใส เด็กๆ เจริญเติบโตสมวัย ไม่ป่วยง่าย หากกินอาหารไม่ถูกต้องก็จะอ้วน หัวใจต้องทำงานหนัก กลายเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาต มะเร็ง ฯลฯ หากเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และกินถูกวิธี นอกจากจะไม่อ้วนแล้ว ยังได้วิตามินบำรุงร่างกาย กากใยในผักผลไม้ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี และอิ่มเร็วโดยเฉพาะมื้อเย็นเมื่อกินน้อยจะช่วยให้นอนหลับสนิท เพราะร่างกายไม่ต้องทำงานหนัก คุณหมอเฉกแนะนำว่าเราควรกินอาหารที่อายุสั้นค่ะ "อาหารอายุสั้นทำให้อายุยืน ได้แก่ ผักผลไม้หลากชนิด เพราะมีความสดใหม่ มีคุณค่าทางอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ เอ็นไซน์เพียบ ที่สำคัญ ต้องไม่หวานจัด และเป็นผักผลไม้พื้นบ้านของไทย วันหนึ่งควรกินผักและผลไม้ให้ได้ 70% ส่วนอีก 30% เป็นโปรตีนจากสัตว์ และถั่วต่างๆ และแนะนำให้กินผักผลไม้ครบทั้ง 3 มื้อ กินแป้งจากข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ธัญพืช แต่มื้อเย็นต้องกินให้น้อยเพราะร่างกายจะได้ไม่ทำงานหนัก นอกจากนี้ต้องหลีกเลี่ยงอาหารอายุยืน อาหารประเภทนี้จะใส่สารกันบูด ผงชูรสมาก หวานจัด เค็มจัด อย่างแฮม เบคอน ไส้กรอก แหนม ปลาส้ม และอาหารกระป๋อง รวมถึงของหมักดองทั้งหลาย หลีกได้ต้องหลีก เพราะมีทั้งสารพิษและเก็บไว้นานจนแทบจะไม่เหลือคุณค่าทางอาหารเลย กินมากๆ จะเป็นโรคไต โรคอ้วน เพราะเค็มจัด หวานจัดด้วย" อย่างนี้แค่รู้จักเลือกกินให้ถูก ไม่ว่าจะจานไหน มื้อไหนสุขภาพก็ดีได้เหมือนกัน... 3. Say No!...งดแอลกอฮอล์ บุหรี่ คาเฟอีน แอลกอฮอล์ มีสรรพคุณทำให้ขาดสติ หากดื่มติดต่อกันนานๆ ยังก่อให้เกิดโรคพิษสุราเรื้อรัง และมะเร็งด้วย นอกจากนี้นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวลเลสลี แมสซาชูเซตส์ ยังศึกษากลุ่มชายหญิงวัยกลางคนขึ้นไป จำนวนเกือบ 2,000 คน พบว่า คนที่ดื่มจัดจะมีสมองที่เล็กกว่าคนที่ไม่ดื่มถึง 1.6 % และอาจนำไปสู่การสูญเสียความทรงจำ สับสน การทำงานประสานกันของอวัยวะต่างๆ ลดลง ดื่มมากๆ อาจทำให้สมองเสื่อมได้ด้วยค่ะ นอกจากแอลกอฮอล์จะไม่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายแล้วยังเปลี่ยนบุคลิกและพฤติกรรมคนได้ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลย และส่งผลให้เกิดการทะเลาะกันในครอบครัว เรียกว่า กินเหล้าแล้วพาให้ทั้งจนและเครียด บุหรี่ เราพาลูกหลีกเลี่ยงมลพิษจากอากาศเสียข้างนอก ทั้งมี พ.ร.บ. คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ปี 2535 ออกมาด้วย แต่กลับลืมไปว่าบ้านกลายเป็นแหล่งที่เด็กได้รับควันบุหรี่มือสองมากที่สุด ซึ่งทำให้มีโอกาสเสี่ยงโรคได้เท่ากับผู้ที่สูบบุหรี่ทีเดียว เพราะเป็นการสูดควันพิษเข้าไปโดยตรง คุณหมอเฉกเล่าประสบการณ์ใกล้ตัวของควันบุหรี่ให้ฟังว่า “...บุหรี่เป็นที่มาของมะเร็ง ปอดอักเสบ ถุงลมโป่งพอง บุหรี่นี่เป็นของเลวที่ คาเฟอีน หลายคนคงนึกถึงกาแฟเพียงอย่างเดียว ความจริงแล้วมีอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิดที่มีคาเฟอีนผสมอยู่ เช่น ชา น้ำอัดลม เครื่องดื่มบำรุงกำลัง หรือแม้แต่ช็อกโกแลต แหม...น่าอร่อยทุกอย่างเลยนะคะ แต่ก็แฝงด้วยอันตราย เพราะคาเฟอีนส่งผลให้กล้ามเนื้อกระตุก คลื่นไส้ หงุดหงิดง่าย หลอดเลือดหดตัว เลือดไปเลี้ยงสมองและหัวใจไม่สม่ำเสมอ หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดต่ำ ไตทำงานน้อยลง ที่สำคัญยังส่งผลให้หญิงตั้งครรภ์เสี่ยงแท้ง และลูกที่เกิดมามีน้ำหนักตัวน้อยด้วยค่ะ 4. Stress... ลดเครียด ลดโรค เมื่อคุณรู้สึกเครียด ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนที่เร่งอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้หายใจเร็วขึ้น เหงื่อออกมาก หน้าตาเหี่ยวย่น แก่ก่อนวัยและส่งผลต่อสุขภาพกายไม่ว่าจะเป็นกระเพาะ ไมเกรน ปวดคอ ปวดหลัง นอนไม่หลับ สมรรถภาพทางเพศเสื่อม มะเร็ง ฯลฯ และยังส่งผลต่อสุขภาพจิตด้วย โดยอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า หรือเป็นโรคประสาทได้ คุณหมอเฉกเชื่อมโยงให้เห็นระหว่างการกระทำที่นำไปสู่ความเครียดว่า "ถ้าเราทำดี ใจมันใสปิ๊ง ภูมิต้านทานในตัวพุ่งปรู๊ดเลย เชื้อโรคแพ้ เรื่องกรรมพิสูจน์เป็นวิทยาศาสตร์ไม่ได้ แต่เป็นปรากฏการณ์ให้เห็น การที่คนเราทำกรรมชั่ว นั่นเพราะเขาคิดไม่ดี ใจไม่ดี ส่งผลให้เครียด พอเครียด วิตกกังวลภูมิต้านทานก็จะตก เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นกระยาจก มหาเศรษฐี หรือนักการเมืองระดับชาติ ระดับโลก ถ้าไม่คิดชั่ว ทำแต่กรรมดี สุขภาพก็จะดีตามไปด้วย" 5. Check... สุขภาพ + น้ำหนักตัวเสมอ การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งจำเป็น ที่จะช่วยบำรุงร่างกายให้ฟิตอยู่เสมอ และยังสามารถป้องกันโรคได้ทั้งในคนปกติและคนที่มีโรคประจำตัว หรือหากตรวจพบจะได้รักษา และแก้ไขได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งขั้นตอนโดยทั่วไปจะเริ่มจาก * การซักประวัติ เพื่อดูว่ามีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคใดบ้าง อายุ อาชีพ ประวัติการเจ็บป่วยของครอบครัว อาชีพและความเป็นอยู่ * การตรวจร่างกาย หลังจากทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว แพทย์จะตรวจเบื้องต้น โดยดูจากน้ำหนัก ส่วนสูง ความดันโลหิต เปลือกตา ผิวหนัง ภายในช่องปาก ดูความผิดปกติของต่อมน้ำเหลือง คลำรอบคอ รักแร้ ข้อศอก ขาหนีบ จากนั้นจะตรวจระบบหัวใจ ฟังปอด คลำท้องและตรวจการเคลื่อนไหวของข้อต่อ กล้ามเนื้อ และระบบประสาทต่อไป ส่วนคุณผู้หญิงก็จะมีการตรวจภายในด้วย ถ้าพบแนวโน้มความผิดปกติ คุณหมอจะส่งตัวไปตรวจหาสิ่งผิดปกติอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง สิ่งที่คุณต้องทำเมื่อไปตรวจร่างกายคือ ไม่ใส่เครื่องประดับ น้ำหอมกลิ่นแรง สวมเสื้อผ้า รองเท้าที่สะดวกต่อการเปิดตรวจ ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของคุณหมอแล้วค่ะ ติดตามตารางการตรวจเช็กสุขภาพและวิธีดูสุขภาพสไตล์ หมอเฉกได้ในนิตยสารรักลูกเดือน พฤษภาคม 2551 ค่ะ ข้อมูลจากนิตยสาร : ฉบับที่ 304 เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2551
ผู้ตั้งกระทู้ Admin :: วันที่ลงประกาศ 2008-05-05 12:12:19 IP : 124.120.102.18

[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1889475)
1234	สุดยอด
ผู้แสดงความคิดเห็น 1234 วันที่ตอบ 2009-01-18 13:06:42 IP : 124.157.234.66

ความคิดเห็นที่ 2 (2106821)
haile	lord and cliff clip in extensions foundation helps women by wigs professional stylist remy hair wigs pink hair extensions.
ผู้แสดงความคิดเห็น haile (connie-at-aol-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-10 19:01:25 IP : 125.126.157.28

[1]

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล