จากทฤษฎีกระจกเงาที่ทางรักลูกเปิดตัวใหม่ "ดีได้ให้ลูกดี ดูได้ให้ลูกดี" ส่วนตัวคุณครูสนใจในพฤติกรรมส่วนนี้ แล้วเห็นด้วยกับพฤติกรรมเลียนแบบของเด็ก ซึ่งในวัยอนุบาลด้วยแล้ว จัดว่าการเลียนแบบเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็กวัยนี้ และเกิดขึ้นง่ายมาก แล้วตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุดก็คงไม่ไกลตัวเค้า ก็คือ คุณพ่อ คุณแม่ คุณครู และเพื่อนๆ มาดูผลสำรวจเบื้องต้นอันหน่อยดีกว่า
พ่อแม่ ก้าวนำ ลูกๆ ก้าวตาม : ทักษะพ่อแม่ยุคใหม่
ปัจจุบันสภาพสังคมไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงไปตามอิทธิพลของสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะจากวัฒนธรรมภายนอกที่หลั่งไหลเข้ามาสู่สังคมซึ่งมีผลกระทบต่อความคิด และพฤติกรรมของผู้คนในสังคมนั้นๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น สภาพแวดล้อมที่เป็นตัวแปรทำให้เกิดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีมากมายทั้งใกล้ตัวและไกลตัวทำให้สังคมที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วนั้น เป็นไปตามสภาพแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงทางความคิดและพฤติกรรมนั้นเกิดขึ้นง่ายกับกลุ่มเด็กและเยาวชนซึ่งจะเติบโตขึ้นมาเป็นอนาคตของชาติ กลุ่มเยาวชนจึงเป็นกลุ่มที่น่าจับตามองอย่างยิ่งเพราะกลุ่มคนเหล่านี้มักจะแสดงความคิดและพฤติกรรมตามรูปแบบที่พวกเขาได้รับ
จากการสำรวจความคิดเห็นจากพ่อแม่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลในเรื่อง พฤติกรรมการลอกเลียนแบบและอบรมเลี้ยงดู ของศูนย์วิจัยรักลูกกรุ๊ป พบว่า พ่อแม่ยุคใหม่ยังคงเชื่อว่าสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมลูกได้ ยังไงลูกของเราก็ต้องเหมือนกับตัวเรา เหมือนสุภาษิตที่ว่า ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น (93.5%) โดยให้เหตุผลว่า พฤติกรรมของเด็กเกิดจากการเรียนรู้จากสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวันจากต้นแบบ คือ การกระทำของพ่อแม่ (74.6%) และการอบรมสั่งสอนโดยตรงของพ่อแม่ (56.5%) ซึ่งในความเป็นจริงพบว่า ทักษะของการเลี้ยงลูกของพ่อแม่ คือ ใช้การอบรมสั่งสอนโดยใช้การพูดคุยกับลูกเป็นหลัก การปฏิบัติตัวให้ดูเป็นแบบอย่าง (40.1%) กลับเป็นอันดับรองลงมาซึ่งอาจเกิดจากสภาพของครอบครัวไทยที่ปัจจุบันเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น มีวิถีชีวิตที่ต้องทำมาหากินเป็นหลัก ได้ส่งผลกระทบต่อทั้งปริมาณและคุณภาพของเวลาที่ใช้ร่วมกันในครอบครัว ส่งผลให้พ่อแม่จำนวนมากขาดในเรื่องของการเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูกดู ซึ่งสอดคล้องกับความคิดเห็นของพ่อแม่ที่ว่า สิ่งที่แบบอย่างที่ดีหรือสิ่งเร้าที่จะทำให้ลูกมีพฤติกรรมที่ดีหรือไม่ดีนั้น ส่วนใหญ่จะมาจากพ่อแม่นั้นเอง (66.2%) เป็นหลัก
คุณลักษณะที่พ่อแม่อยากจะให้ลูกซึมซับจากพฤติกรรมของพ่อแม่มากที่สุด ส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของคุณธรรมและจริยธรรม คือ ความซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบ (14.1%) และมีกิริยามารยาทที่ดี (12.9%) พูดจาไพเราะอ่อนหวาน (11.4%) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่สังคมในปัจจุบันขาดหายไป อันเนื่องมาจากสภาพปัญหาสังคมที่กล่าวไว้ข้างต้น ทำให้พ่อแม่ไม่สามารถที่จะมีเวลาได้เป็นแบบอย่าง เพราะเวลาส่วนใหญ่จะใช้ไปกับการทำงานประกอบอาชีพ ทำให้มีแต่การพูดคุยหรือตักเตือนเฉพาะเวลาที่ทำผิดเท่านั้น
จากผลของการสำรวจทำให้เห็นว่า พ่อแม่คือ ส่วนสำคัญในการปลูกฝังพฤติกรรมของลูก โดยการที่ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกดู เหมือนคำกล่าวที่ว่า พ่อแม่เป็นอย่างไร ลูกก็เป็นอย่างนั้น ยิ่งในเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมที่พ่อแม่ต้องการให้ลูกเป็นนั้น การอบรมสั่งสอนโดยปราศจากต้นแบบที่ดีที่เป็นรูปธรรมให้เด็กได้เข้าใจและซึมซับได้ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญ การเรียนรู้ที่แท้จริงของเด็กนั้น เด็กจะเริ่มต้นเรียนรู้จากการมองเห็น การกระทำโดยมีเซลล์สมองที่เรียกว่า เซลล์กระจกเงา เป็นตัวบันทึกและจดจำภาพเหตุการณ์ ที่ส่งผลต่อการเรียนรู้และสร้างเสริมพัฒนาการของเด็ก ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมการเลียนแบบ ทฤษฏีดังกล่าวยังส่งผลถึงการปลูกฝังนิสัยให้ลูกเป็นไปอย่างที่พ่อแม่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
ขอบคุณผลสำรวจจาก : รักลูกรีเสริท์
|