![]() |
|
Home | หลักสูตร | กิจกรรมประจำวัน | ติวสาธิตครูจอย | Contact | English Version | School Blog |
พลังแห่งการชวนลูกตั้งคำถาม | |||
พลัง!!! แห่งการตั้งคำถาม
โดย: เกษม ตั้งทรงศักดิ์
การตั้งคำถามคือพลังในการเรียนรู้สำหรับเด็กๆ
เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายคนคาดหวังว่าคำตอบเป็นเสมือนตัววัดความฉลาดของเด็ก แต่ผมจะลองหักมุมสักนิด ด้วยการพูดถึงพลังจากการตั้งคำถามครับ เพราะเรามักละเลยหรือมองข้ามเรื่องของ คำถาม ไป จนกลายเป็นวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่ติดตัวคนไทย ไม่ต้องดูอื่นไกลในบรรยากาศการเรียนรู้ในระดับโรงเรียน มหาวิทยาลัย รวมถึงในที่ทำงาน หลังจบการประชุม หากถามว่า มีใครสงสัยหรือมีคำถามอะไรหรือไม่ คำตอบส่วนใหญ่คือนิ่งเงียบ
ผมจึงย้อนรอยตัวเองว่าตอนเด็กๆ ผมกับเพื่อนมีประสบการณ์ในชั้นเรียน ว่าคนที่ชอบซักชอบถามมักเป็นคนที่ถูกครูและเพื่อนว่าเป็น ยุงรำคาญ และการที่คุณครูเน้นการท่องจำ ไม่ได้เรียนรู้แบบตั้งคำถามและหาคำตอบไปด้วยกัน ผมจึงได้แต่สันนิษฐานว่าด้วยบรรยากาศและวิธีการเรียนรู้ของระบบการศึกษาไทย ไม่เอื้อต่อการตั้งคำถาม จึงทำให้บุคลิกภาพของคนไทยเป็นคนไม่เห็นความสำคัญในพลังของตั้งคำถาม
คำถาม...ดัชนีวัดความอยากรู้
การที่เราให้เด็กคนหนึ่งได้ตั้งคำถามกับสิ่งที่เขากำลังเรียนรู้ ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่และเปลี่ยนแปลงโลกของเรามาตลอด เพราะเมื่อย้อนไปดูความก้าวหน้า ความรู้ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ การค้นพบของนักคิด นักวิทยาศาสตร์ หรือวิชาความรู้แขนงต่างๆล้วนเกิดขึ้นจาก การตั้งคำถาม ทั้งสิ้น เช่นคำถามเกี่ยวกับอดีตว่า
- โลกเกิดขึ้นได้อย่างไร?
- ทำไมคนจึงยืนอยู่บนพื้นโลกได้?
- ทำไมไดโนเสาร์จึงสูญพันธุ์?
- ถ้าโลกนี้ไม่มีดวงจันทร์จะเกิดอะไรขึ้น?
ในที่สุดคำถามเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้เกิดการเรียนรู้ นำไปสู่การค้นพบความจริง การสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ เทคโนโลยีมากมาย ผมถึงบอกว่า คำถามทรงพลัง จริงๆ ครับ คำถาม...สร้างคน เราในฐานะผู้ใหญ่ที่เป็นพ่อแม่หรือครู จะช่วยกันทำอย่างไรให้เด็กๆ ลูกหลานได้ฝึกฝนทักษะในการตั้งคำถาม โดยผู้ใหญ่ยุคนี้ต้องเปิดโอกาสให้เด็กแต่ละคนถามในสิ่งที่เขาอยากรู้ หรืออาจตั้งคำถามกับพวกเขาเพื่อให้เกิดความคุ้นชินกับการตั้งคำถาม
ผมแนะนำว่าอาจใช้วิธีตั้งคำถามบ่อยๆ โดยเลี่ยงคำถามปลายปิด ประเภทต้องการคำตอบเพียง Yes หรือ NO แต่ควรเป็นคำถามปลายเปิด ที่หลากหลาย เช่น คำถามที่ท้าทาย คำถามที่ไม่น่าเป็นไปได้ คำถามที่นอกเหนือจากสมมุติฐานเดิม คำถามนอกกรอบ หรือคำถามเชิงเปรียบเทียบ เช่น หนูคิดว่าถ้าปลาบินได้จะเป็นอย่างไร นอกจากนี้ Benjamin S. Bloom นักจิตวิทยาชื่อดัง มีเทคนิคการตั้งคำถามอยู่ 6 แบบด้วยกันคือ - การตั้งคำถามเพื่อความรู้ ความจำ เป็นคำถามที่ทำให้เด็กนึกถึงเรื่องราว ประสบการณ์ สิ่งที่เคยเรียนรู้มา เช่น หนูเคยเห็นปลาคาร์ฟที่ไหนบ้าง
- ตั้งคำถามเพื่อสร้างความเข้าใจ เป็นการตั้งคำถามเพื่อแปลความหมายหลายๆอย่างแล้วสรุปยอดเป็นเนื้อความใหม่ เช่น มีสัตว์อะไรที่อยู่ในน้ำเหมือนปลาบ้าง
- ตั้งคำถามประยุกต์ความรู้ เพื่อนำความรู้ที่เรียนมาไปใช้ในสถานการณ์ใหม่ เช่น ปลามีบทบาทต่อคนอย่างไร
- ตั้งคำถามเพื่อการวิเคราะห์ ให้เด็กเกิดการแยกแยะส่วนย่อยของเหตุการณ์ เรื่องราว เนื้อหาต่างๆ อะไรเป็นสาเหตุหรือผล อะไรที่สำคัญ ไม่สำคัญ เช่น ทำไมปลาอยู่ในน้ำแต่คนสามารถจับขึ้นมาได้
- ตั้งคำถามแบบสังเคราะห์ เพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งเป็นคำถามที่สะท้อนการคิดเชิงสร้างสรรค์ เช่น เราสรุปเรื่องปลาได้สั้นๆว่า....
- ตั้งคำถามเพื่อการประเมินค่า เป็นการตั้งคำถามที่ถามให้ตัดสินใจว่าสิ่งนั้นดีหรือไม่ดี เหมาะหรือไม่เหมาะสมเป็นต้น เช่น จะรู้ได้อย่างไรว่าเรารู้เรื่องปลาดีแล้ว
เมื่อเด็กหรือผู้เรียนเกิดความสงสัยแล้วจะเป็นก้าวแรกที่นำไปสู่การเป็นคนช่างคิด ช่างซักช่างถาม ช่างสงสัย และเป็นการปูพื้นฐานการเป็นคนใฝ่รู้ ด้วยเหตุนี้ผมจึงตั้งชื่อเรื่องไว้ว่า พลังแห่งการตั้งคำถาม เพราะเป็น 1 ในเครื่องมือของการเรียนรู้ในกระบวนการเรียนรู้แบบ DLP ที่เกี่ยวข้องกับ ส.สงสัย มาช่วยกันสร้างบรรยากาศแห่งการถาม เพื่อสร้างเด็กรุ่นใหม่ให้เป็นคนอยากรู้อยากเห็น และนำไปสู่การค้นหาคำตอบด้วยตนเองครับ
| |||
ผู้ตั้งกระทู้ admin :: วันที่ลงประกาศ 2009-08-12 14:32:41 IP : 124.120.111.204 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2106687) | |
buy hair extensions hair weaves baldness you require double-sided wigs Specialty medical cranial hair hair extension wavy extensions. | |
ผู้แสดงความคิดเห็น guese (king-at-live-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-10 18:43:45 IP : 125.126.157.28 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
![]() |
Visitors : 685318 |