ReadyPlanet.com


เวลาครอบครัว... เวลาพัฒนาสมอง
avatar
รักลูกคะ


เวลาครอบครัว...เวลาพัฒนาสมองลูก

 โดย นพ.อุดม เพชรสังหาร
ผมมักโดนถามบ่อยๆ ว่า ในกรณีที่ต้องทำมาหากินหามรุ่งหามค่ำ จนไม่มีเวลาให้กับลูก และครอบครัว จะมีหนทางแก้ไขอย่างไร ผมก็ตอบไปตรงๆ ว่าก็ต้องทำให้มีเวลาสิ บางคนโกรธ หาว่าผมยียวนกวนประสาท และบอกว่านั่นไม่ใช่คำตอบสำหรับเขา ต้องเรียนว่าผมตั้งใจตอบอย่างนั้นจริงๆ และในความเป็นจริงก็ต้องทำให้ได้อย่างนั้นด้วย
การทำมาหากินเป็นหน้าที่ของครอบครัว การเลี้ยงดูลูกและการดูแลสมาชิกของครอบครัวก็เป็นหน้าที่ของครอบครัวด้วยเช่นกัน
ทั้งสองอย่างมีความสำคัญเท่าเทียม จะบอกว่าอย่างใดอย่างหนึ่งสำคัญกว่าไม่ได้ หน้าที่ของเราจึงต้องจัดความสมดุลให้กับทั้งสองเรื่องนี้ให้ได้ เพราะความมั่นคงของครอบครัวมันขึ้นอยู่กับทั้งสองสิ่งนี้ โดยไม่สามารถขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ ถึงเราจะมีฐานะมั่นคง แต่ปรากฏว่าสมาชิกของครอบครัวไม่มีความสุข พัฒนาการของลูกมีปัญหา เกิดความระหองระแหงในครอบครัว ความสุขความมั่นคงของครอบครัวมันก็เกิดขึ้นยาก เช่นเดียวกัน หากครอบครัวเราใกล้ชิดกัน แต่เราไม่มีเงินซื้อหาปัจจัยจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ต้องกู้หนี้ยืมสิน ครอบครัวก็ย่อมเกิดความยากลำบาก สุดท้ายครอบครัวก็เป็นทุกข์
การทำมาหากิน การเลี้ยงดูลูก การดูแลพัฒนาการของลูก การดูแลครอบครัว ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องการเวลา โดยเฉพาะคนที่กำลังมีลูกเล็กๆ เพราะเป็นช่วงที่สมองของเขากำลังพัฒนาอย่างขนานใหญ่

 

ปัญหาจึงอยู่ที่ว่าแล้วเราจะจัดการกับเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างไร?
ผมอยากเสนอทางออกบางอย่าง เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่แฟนๆ ของ "รักลูก" ได้นำไปพิจารณาใช้ประโยชน์ แต่ต้องเรียนก่อนว่ามันอาจจะมีช่องทางหรือวิธีการอื่นๆ ที่นอกเหนือจากนี้ก็ได้ หรืออาจมีช่องทางอื่นๆ ที่คุณพ่อคุณแม่เคยใช้แล้วได้ผล ซึ่งถ้าจะเขียนมาเล่าสู่กันฟังเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตามประสาคนเป็นพ่อแม่ก็จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
สิ่งที่ผมอยากย้ำก็คือ คุณต้องถือว่าเวลาสำหรับครอบครัวเป็นสิ่งจำเป็น อย่าให้เรื่องงาน เรื่องการทำมาหากิน มามีอิทธิพลเหนือกว่าสิ่งนี้โดยเด็ดขาด ที่ต้องย้ำเพราะว่าบางทีเราเผลอ พองานมันรัดตัวเข้ามากๆ เราก็เริ่มเอาเวลาของงานมาเบียดบังเวลาของครอบครัวซะเลย แล้วทุกอย่างจะกลายเป็นความเคยชิน สุดท้ายก็ไม่เหลือเวลาให้กับครอบครัว คุณต้องจัดการเรื่องเวลาในการทำงานให้มีคุณภาพ
1. จัดการกับงาน ลองสำรวจตรวจสอบตัวเองย้อนหลังบ้างก็ได้ว่าในอดีตที่ผ่านมา เราใช้เวลาในการทำงานให้เต็มที่หรือยัง งานแต่ละชิ้นเราจัดการให้มันเสร็จสิ้นภายในเวลาที่ควรจะเป็นหรือไม่ การประชุมแต่ละนัดของเรายืดเยื้อโดยไม่มีผลออกมาอย่างที่ควรจะเป็นภายในเวลาที่กำหนดหรือไม่ ถ้าเราตรวจสอบตรงนี้ได้ เราจะเห็นเองว่าเรามีวิธีการจัดการกับเวลาในการทำงานได้อย่างไร จะได้ไม่ต้องหอบงานกลับมาทำที่บ้าน จนเรามีเวลากับครอบครัวน้อยลง
อย่าไปเชื่อคนที่พูดว่างานคือชีวิต ชีวิตคืองาน ต้องทุ่มเทชีวิตให้กับงานแบบสุดตัว โดยไม่คำนึงถึงเรื่องอื่น เพราะสุดท้ายเมื่อคุณไม่สามารถทำงานได้ คุณก็ต้องอยู่กับครอบครัวอยู่ดี ทั้งงานและครอบครัวคือชีวิตครับ ไม่ใช่เฉพาะงานเท่านั้นคือชีวิตของเรา
2. จัดการกับเวลาของครอบครัวให้มีคุณภาพขึ้นได้ การใช้เวลากับครอบครัวให้มีคุณภาพนั้นไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ด้วยกันกับครอบครัวแบบต่างคนต่างอยู่ แบบอยู่ในบ้านพร้อมหน้าพร้อมตากันแต่ไม่ได้พูดคุยกับเลย หรือต่างคนต่างทำภารกิจส่วนตัวของใครของมัน
เวลาคุณภาพสำหรับครอบครัวนั้น คือเวลาที่ทุกคนในครอบครัวได้มีการพูดคุยหยอกล้อเล่นหัว ทำกิจกรรมด้วยกันครับ ด้วยกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้แหละที่จะทำให้ทุกคนได้รับรู้ถึงความรู้สึกนึกคิดซึ่งกันและกัน พ่อเข้าใจความคิดของแม่ แม่เข้าใจความคิดของลูก ความเข้าใจเหล่านี้จะนำไปสู่การปรับตัวเข้าหากันและทำให้ทุกคนรู้สึกผูกพันกัน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
3. ลดกิจกรรมต่างคนต่างอยู่ ลองสำรวจดูซิครับว่าเมื่อมีเวลาอยู่บ้านด้วยกัน แล้วมีกิจกรรมอะไรบ้างที่ต่างคนต่างทำไม่ได้สุงสิงกัน คุณพ่อเอาแต่อ่านหนังสือพิมพ์ คุณแม่ดูแต่ละครหลังข่าว ลูกๆ ได้แต่เล่นเกม ทุกคนต้องช่วยกันตัดหรือลดกิจกรรมส่วนตัวเหล่านี้ของตนเองลง เพื่อที่จะมีเวลาเหลือมาทำกิจกรรมร่วมกันได้มากขึ้น
เมื่อทุกคนต่างมีเวลาเราก็สามารถหากิจกรรมมาทำร่วมกันได้ ถ้าคิดไม่ออกก็อาจใช้วิธีหมุนเวียนเปลี่ยนเวรกันเป็นเจ้าของไอเดียก็ได้ วันนี้คุณพ่อ พรุ่งนี้คุณแม่ วันถัดไปลูก คุณยาย คุณตา แล้วแต่จะตกลงกัน จะเป็นกิจกรรมอะไรก็ได้หมุนเวียนกันไป
แต่สิ่งที่ทุกคนจะต้องยึดก็คือ ทุกคนมีหน้าที่เข้าร่วมกิจกรรม ห้ามปฏิเสธไม่ว่ากรณีใดๆ จริงๆ แล้วเรื่องนี้ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็พยายามรณรงค์อยู่ว่า ทุกวันอาทิตย์ขอให้เป็นเวลาของครอบครัวที่จะอยู่ด้วยกัน ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน แต่ผมไม่แน่ใจว่านโยบายนี้เกิดผลในทางปฏิบัติมากน้อยแค่ไหน
ครอบครัวคือฐานสำคัญที่สุดของสังคม ถ้าครอบครัวดี สังคม เศรษฐกิจ การศึกษา และอื่นๆ จะดีตามมาเอง แต่น่าเสียดายที่สังคมไทยมองข้ามเรื่องนี้ไปนานแล้ว เราดันไปมองว่าเศรษฐกิจดีจะทำให้อย่างอื่นดีตามมาด้วย ซึ่งผลมันก็ออกมาแล้วว่าไม่ใช่ นักเศรษฐศาสตร์เองก็เริ่มมองเห็นแล้วว่าคุณภาพของคน คุณภาพของสังคมต่างหากที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้น ซึ่งก็รวมไปถึงเศรษฐกิจดีขึ้นด้วย
ผมเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่แฟนๆ ของ "รักลูก" คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ และชอบแสวงหาความรู้ใหม่ๆ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของตนเองและลูก จึงอยากบอกว่าการสร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง โดยการสร้างเวลาคุณภาพให้กับครอบครัวนี่แหละครับ คืออีกวิธีหนึ่งของการก้าวเดินไปสู่ชีวิตที่ดีกว่าของเรา

ข้อมูลจาก : นิตยสาร       ฉบับที่ 305 เดือนมิถุนายน พ.ศ.2551


ผู้ตั้งกระทู้ รักลูกคะ :: วันที่ลงประกาศ 2008-06-24 18:05:08 IP : 124.120.98.102


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2106742)
avatar
addie

remi hair hannah montana wigs is the base of the wig that sits on wigs about any reason and any season The black wigs extension clips.

ผู้แสดงความคิดเห็น addie (mason-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-10 18:51:35 IP : 125.126.157.28



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.