ReadyPlanet.com


ตำนาน ซำปอกง มีที่มาว่าอย่างไร
avatar
AnoMae


ตามตำนานเล่าว่า ซำปอกง หรือ เจิ้งเหอ เดิมชื่อว่า หม่า เหอ เกิดในครอบครัวชาวมุสลิมที่เมืองคุนหยาง มณฑลยูนนานทางตอนใต้ของประเทศจีน ต่อมาในปี ค.ศ.1381 เกิดสงครามกวาดล้างกองกำลังมองโกลที่ปักหลักอยู่ในแถบยูนนาน ท่ามกลางความวุ่นวายของสงคราม หม่า เหอ วัย11 ปี ได้ตกเป็นเชลยศึก และถูกส่งตัวเข้ามาเป็นขันทีเพื่อทำงานรับใช้ในกองทัพ
          หม่า เหอ ติดตามกองทัพเข้าร่วมสมรภูมิรบจนอายุได้ 19 ปี ก็ได้มารับใช้ เอี้ยนหวังจูตี้ องค์ชายสี่แห่งราชวงศ์หมิงที่ปักกิ่ง นับแต่นั้น หม่า เหอ ก็คอยติดตามอยู่ข้างกายจูตี้ จนกลายเป็นคนสนิทที่ได้รับความไว้วางใจอย่างมาก หม่า เหอได้สร้างความดีความชอบไว้มาก โดยเฉพาะการช่วยให้จูตี้ได้ก้าวขึ้นคลองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิหมิงเฉิงจู่ ในที่สุด หม่า เหอ ก็ได้รับการเลื่อนฐานะขึ้นเป็นหัวหน้าขันที และได้พระราชทานแซ่ เจิ้ง จึงกลายมาเป็น เจิ้งเหอ หรือที่รู้จักกันในนาม
ซำปอกง
         
และเนื่องจากการที่เจิ้งเหอเป็นบุคคลที่จูตี้ให้ความไว้วางใจมากที่สุด ทั้งจากการเป็นขันทีคนสนิท และความดีความชอบในการหนุนจูตี้ขึ้นสู่บัลลังก์ จึงได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการกองเรือขนาดใหญ่ออกเดินทางไปในมหาสมุทรอันกว้างไกล ที่เล่ากันว่านอกจากจะเป็นการเดินทางเพื่อประโยชน์ทางการค้า การเผยแพร่ความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรจีนแล้ว ยังแฝงไว้นัยสำคัญทางการเมืองและการสืบราชบัลลังก์ ค้นหาร่องรอยของอดีตจักรพรรดิหมิงฮุ่ยตี้ เพื่อสร้างความมั่นคงและมั่นใจแก่ราชบัลลังก์ของจูตี้ ว่าหมิงฮุ่ยตี้จะไม่มาเป็นหอกข้างแคร่อีกต่อไป
          การเดินทางออกสู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ของเจิ้งเหอ 7 ครั้งในรอบ 28 ปี เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว กองเรือและการเดินทางของเจิ้งเหออาจกล่าวได้ว่าเป็นการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์การเดินเรือของโลก นำมาซึ่งความสำเร็จทางการทูตและทางเศรษฐกิจ ทำให้ชาวจีนกลายเป็นมหาอำนาจทางเอเชียอาคเนย์ อินเดีย และแอฟริกา แต่บันทึกเรื่องราวการเดินทางที่เป็นลายลักษณ์อักษรโดยตรงแทบไม่มีหลงเหลืออยู่เลย ความรุ่งเรืองทางทะเลของจีนก็จบสิ้นลงพร้อมกับการจากไปของเจิ้งเหอผู้ยิ่งใหญ่
          จากตำนานที่เล่าขานกันมาหลายร้อยปีกลายมาเป็นซำปอกง หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม หลวงพ่อโต  ที่เป็นที่เคารพสักการบูชาของทั้งคนจีน คนไทย และคนไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศไทย ซึ่งในสยามประเทศมีซำปอกงองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่เพียง 3 วัดเท่านั้น โดยผู้ที่ไปกราบไหว้สักการบูชาซำปอกงส่วนใหญ่นอกจากจะกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังนิยมไปกราบไหว้เพื่อให้รุ่งเรืองทางด้านการค้าพาณิชย์ มีโชคลาภ และประสบแต่โชคดีในการเดินทาง

ซำปอกงองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ใน 3 วัดเท่านั้น มีดังนี้
          ซำปอกงองค์แรก อยู่ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
          หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหน้าตักกว้างประมาณ 20 เมตร สูงประมาณ 19 เมตร ถือเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่ชาวกรุงเก่าให้ความเคารพนับถือมาช้านานหลายร้อยปี เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตนั้นต่างร่ำลือไกล
          ปัจจุบันที่วัดพนัญเชิงมีนักท่องเที่ยวและผู้คนที่เลื่อมใสศรัทธาแวะเวียนไปนมัสการขอพรไม่ขาดสาย พร้อมทั้งยังนิยมบนบานด้วยการถวายผ้าห่มหลวงพ่อโต โดยมีวิธีการคือ ให้คนของทางวัดโยนผ้าขึ้นไปให้คนที่อยู่ที่ตัก และที่ไหล่ห่มองค์หลวงพ่อโตอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
          ซำปอกงองค์ที่สอง อยู่ที่วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เขตธนบุรี ในกรุงเทพมหานคร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร สร้างโดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ หรือ โต กัลยาณมิตร ต้นสกุลกัลยาณมิตร น้อมเกล้าฯถวายแต่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 และได้รับพระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร"
          เมื่อแรกสร้างวัด พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้สร้างพระวิหารหลวง พร้อมกับโปรดให้สร้างพระโต หรือหลวงพ่อโต หรือที่คนจีนเรียกว่า ซำปอกง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 11.75 เมตร สูง 15.45 เมตร พระราชทานเป็นพระประธานในพระวิหารหลวง ด้วยพระราชประสงค์ให้มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ริมน้ำในกรุงรัตนโกสินทร์ เช่นเดียวกับที่กรุงเก่า คือที่วัดพนัญเชิง
          หลวงพ่อโต หรือ พระพุทธไตรรัตนนายก ที่วัดกัลยาณมิตรแห่งนี้ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ถือเป็นที่เคารพสักการระของคนไทย และคนจีนในประเทศเป็นอย่างมากโดยเฉพาะช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ ตรุษจีน และวันทิ้งกระจาด
          ซำปอกงองค์ที่สาม อยู่ที่วัดอุภัยภาติการาม อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา บนถนนศุภกิจใกล้กับตลาดจังหวัดบ้านใหม่ก็มีซำปอกงหรือหลวงพ่อโต องค์โตให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชาเช่นกัน
          สำหรับวัดอุภัยฯ เดิมนั้นมีวิหารลักษณะศาลเจ้า แต่ปัจจุบันแปรสภาพเป็นวัดญวนในลัทธิมหายาน แต่ว่าก็มีชาวพุทธแวะเวียนไปกราบไหว้ ซำปอกง หรือหลวงพ่อโตกันไม่ได้ขาด โดยส่วนใหญ่ก็จะไปขอให้ทำมาค้าขึ้น กิจการรุ่งเรืองก้าวหน้า

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์



ผู้ตั้งกระทู้ AnoMae :: วันที่ลงประกาศ 2008-01-23 21:41:03 IP : 124.120.101.127


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1950621)
avatar
ธราศักดิ์

องค์ที่ 4 เป็นพระพุทธรูป หลวงพ่อโต ซำปอกง (จำลอง)

ขนาดหน้าตักกว้าง 109 นิ้ว (5 ศอก 1 คืบ)

เป็นพระพุทธรูปองค์จำลอง หลวงพ่อโต ซำปอกง เนื้อโลหะทองเหลือง

องค์แรก และองค์เดียว ของประเทศไทยตั้งแต่ที่มีประวัติศาสตร์มาจนถึงปัจจุบัน

โดยได้รับการอนุญาตการจัดสร้างจาก

พระราชรัตนวราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

เพื่อจัดสร้างเป็นองค์พระประธานประจำอุโบสถ

ณ วัดบ้านน้อยท่าทอง

หมู่ 1  ตำบลศรีภิรมย์  อำเภอพรหมพิราม  จังหวัดพิษณุโลก

โดยมีพิธีเททองหล่อพระประธาน หลวงพ่อโต ซำปอกง (จำลอง)

จัดสร้างเมื่อ วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 20.09 น.

ณ ลานมณฑลพิธีวัดบ้านน้อยท่าทอง

หมู่ 1  ตำบลศรีภิรมย์  อำเภอพรหมพิราม  จังหวัดพิษณุโลก

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธราศักดิ์ (tana_386-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-06-15 04:57:02 IP : 118.174.189.14


ความคิดเห็นที่ 2 (2106652)
avatar
feel

getting hair extensions human hair way you would take care of wigs styled Yours may need to hairdo cheap clip on hair extensions.

ผู้แสดงความคิดเห็น feel (kevin-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-10 18:37:13 IP : 125.126.157.28



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.