ReadyPlanet.com


รู้ทันหนู...เด็กสมาธิสั้น รักษาได้ !
avatar
ครูจอย




     โมสาร์ท นักประพันธ์เพลงผู้ยิ่งใหญ่ โทมัส อัลวา เอดิสัน ผู้คิดค้นการทำงานของหลอดไฟที่ใช้กันในปัจจุบัน กระทั่ง อับบราฮัม ลินคอร์น ผู้ที่ยกเลิกระบบทาสในประเทศสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ ก็ล้วนมีประวัติว่าเป็นโรคสมาธิสั้นทั้งสิ้น


      สมาธิ คือ กระบวนการที่คนเรามีจุดสนใจ จดจ่อ และเอาใจใส่เฉพาะกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งอาจเลือกที่จะสนใจเป็นระยะเวลาสั้นๆ หรือเป็นระยะเวลานานๆ ก็ได้ตามความต้องการของคนๆ นั้น รวมถึงความสามารถที่จะเบนความสนใจจากสิ่งหนึ่งไปยังอีกสิ่งหนึ่งได้เมื่อเราต้องการ 

ความสนใจเกี่ยวข้องกับสมาธิอย่างไร?
     ความสนใจ เป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งของสมาธิ การก่อให้เกิดสมาธินั้นต้องอาศัยความสนใจเป็นหลัก รวมทั้งองค์ประกอบอื่นๆ ความสนใจจึงเป็นการรวบรวมความคิดให้จดจ่อในจุดนั้นๆ ซึ่งการรวบรวมความคิดให้ยาวนานและต่อเนื่องจึงสามารถทำให้เกิดเป็นสมาธิขึ้นมาได้ 

สมาธิมีผลอย่างไรต่อเด็กในวัยเรียน 
     สมาธิเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ในคนทุกวัย ไม่เพียงแต่ในเด็กเท่านั้น แต่เด็กซึ่งอยู่ในวัยที่กำลังเรียนรู้นั้นหากมีสมาธิดีจะได้เปรียบกว่า ทั้งในด้านการฟัง การคิด การรับรู้ และมีความสามารถในการจดจำได้มากกว่าเด็กที่มีสมาธิสั้น เพราะเด็กที่มีสมาธิสั้นนั้นยากที่จะบังคับจิตใจให้จดจ่อหรือสนใจอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นงานที่ต้องทำอยู่เป็นระยะเวลานาน จะวอกแวกได้ง่ายได้ ซึ่งนอกจากสมาธิสั้นจะมีผลต่อการเรียนรู้แล้ว ยังมีผลเสียอื่นๆ ที่เกิดขึ้นอีกหลายอย่างต่อตัวเด็ก และต่อครอบครัวตามมาด้วย 

สมาธิสั้นคืออะไร 
     คุณคงเคยได้ยินคุณพ่อ คุณแม่ หรือคุณครูบ่นเด็กๆ ที่อยู่ไม่นิ่งว่า “ดื้อ” “อยู่ไม่สุข” “ทำไมไม่อยู่นิ่งๆ บ้าง” “ไม่ฟังครูเลย” “ใจลอย” “ขี้ลืม” “ขี้เกียจจัง” “อย่าพูดแทรก” “ซนหกล้มอยู่เรื่อย” “ซุ่มซ่าม” แน่นอนค่ะว่าเด็กที่มีภาวะสมาธิสั้นจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวและตัวเด็กเองเป็นอย่างมาก เพราะเด็กจะไม่รู้จักระวังอันตรายและคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง ซึ่งจะทำให้พ่อแม่รู้สึกเครียดเพราะกังวลเป็นห่วงลูกตลอดเวลา เมื่อเป็นห่วงมากก็แสดงออกด้วยการตักเตือนหรือบ่นมากเป็นธรรมดา ส่งผลให้เด็กรู้สึกว่ามีปมด้อย เพราะถูกตำหนิอยู่เสมอ บางคนอาจถูกทำโทษจากพ่อแม่ หรือครู บางคนทะเลาะกับเพื่อน เข้ากับเพื่อนไม่ได้ เรียนหนังสือไม่ทัน ผลการเรียนแย่ลงอาจสอบไม่ผ่าน จึงมักจะคิดว่าตัวเองเป็นคนโง่ เรียนรู้อะไรยาก ไม่มีใครอยากคบด้วย เด็กจะยิ่งเครียด แล้วอาจแยกตัวออกไปอยู่คนเดียว เพราะรู้สึกว่าไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการซึมเศร้าได้ 
     โดยทั่วไปแล้วในเด็กวัยเรียนจะพบเด็กสมาธิสั้นได้ร้อยละ 3-5 ซึ่งพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงถึงร้อยละ 4 สำหรับในประเทศไทยพบว่ามีเด็กสมาธิสั้นร้อยละ 5 โดยเฉลี่ยแล้วในห้องเรียนห้องหนึ่งจะพบเด็กสมาธิสั้นประมาณ 2- 3 คน ! 
     ส่วนผู้ใหญ่ที่มีอาการสมาธิสั้นนั้นก็มีเหมือนกัน สังเกตได้ว่าจะเป็นคนที่มีความสนใจอะไรน้อยเกินไป ซึ่งอาจขาดความสนใจบางส่วนหรือทั้งหมดทำให้ขาดสมาธิในการทำงาน โดยเฉพาะงานที่ต้องทำเป็นประจำ เขาจะรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่สามารถอดทนที่จะรอคอย หรือทำงานที่ต้องใช้ระยะเวลานานๆ ได้ 

แล้วอะไรคือสาเหตุของสมาธิสั้น?
     โรคสมาธิสั้นนั้นเกิดจากการทำงานที่ไม่ปกติของระบบประสาทชีววิทยาภายในร่างกาย อันได้แก่ สมองส่วนหน้า (Frontal Lobe of Cerebral Hemisphere) ทำงานน้อยกว่าปกติ ซึ่งสมองส่วนนี้เป็นสมองส่วนที่ควบคุมความคิด การเกิดสมาธิ การจัดระเบียบและการทำกิจกรรมแบบมีจุดมุ่งหมาย ส่วนความผิดปกติอีกประการหนึ่งก็คือ การเกิดปัญหาของการหลั่งสารเคมีในสมองที่เรียกว่า Dopamine และ Norepinephrine ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ช่วยกระตุ้นทำให้มีการเคลื่อนไหว ไม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ เนื่องจากการขาดหรือมีสารเคมีดังกล่าวในปริมาณที่ไม่สมดุล และจะส่งผลให้แสดงพฤติกรรมผิดปกติจนไม่สามารถหยุดการกระทำได้ นอกจากนี้ การเป็นโรคภูมิแพ้ การที่สมองของเด็กได้รับความกระทบกระเทือนระหว่างการคลอด หรือได้รับการติดเชื้อหลังคลอด และการที่เด็กได้รับสารเคมี ที่เป็นอันตรายต่างๆ เช่น สารตะกั่วล้วนอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคสมาธิสั้นได้ 
     พ่อแม่บางคนที่มีลูกสมาธิสั้น มักจะโทษตัวเองว่าเป็นเพราะตนเองเลี้ยงลูกไม่ดี ....ซึ่งขออธิบายค่ะว่า การเลี้ยงดูของพ่อแม่ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเกิดโรคสมาธิสั้น แต่การเลี้ยงดูและการดูแลที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง สามารถส่งผลให้เด็กที่มีอาการสมาธิสั้นอยู่แล้วมีอาการมากขึ้น ซึ่งในทางตรงกันข้าม การดูแลที่ดีกลับจะช่วยให้เด็กสามาธิสั้นมีอาการดีขึ้นได้ 

รู้ได้อย่าง...ว่าเด็กเป็นโรคสมาธิสั้น
     การที่จะสรุปว่าเด็กคนใดเป็นโรคสมาธิสั้นหรือไม่นั้น ต้องมีผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ กุมารแพทย์ และจิตแพทย์ เป็นผู้วินิจฉัย ซึ่งในประเทศไทยจะใช้คู่มือของ DSMIV 1994 (Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorder) ของสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน (Psycho American Association) ซึ่งลักษณะเฉพาะของสมาธิสั้น มีอยู่ 3 อย่างคือ 

     • อาการขาดสมาธิ (Inattention) จำแนกได้ 9 อาการ 
     • ซุกซนไม่อยู่นิ่ง (Hyperactivity) จำแนกได้ 6 อาการ 
     • อาการหุนหันพลันแล่น (Impulsiveness) จำแนกได้ 3 อาการ 
     • อาการดังกล่าวต้องแสดงออกก่อนอายุ 7 ปี 


อาการขาดสมาธิ (Inattention) ประกอบด้วย
1. มีความเลินเล่อในการทำกิจกรรมหรือการทำงานอื่นๆ และมักจะละเลยในรายละเอียด 
2. ไม่มีสมาธิในการทำงานหรือการเล่น 
3. ดูเหมือนไม่เชื่อฟังและไม่สนใจเมื่อมีคนพูดด้วย 
4. ทำกิจกรรมไม่เสร็จ ทำตามคำสั่งไม่จบ 
5. มีความลำบากในการจัดระเบียบงานหรือกิจกรรมที่ทำ 
6. หลีกเลี่ยงงานที่ต้องใช้สมาธิ 
7. ทำของหายบ่อยๆ 
8. วอกแวกง่าย 
9. ขี้ลืมเป็นประจำ

Donald Getz, O.D. เล่าว่า คุณแม่ของเด็กชายชาวอเมริกันชื่อเอ็ดดี้ อายุ 7 ปี บอกว่าบางทีเอ็ดดี้เขียนหนังสือได้ 1-2 ตัว ก็จะลุกขึ้นวิ่งเล่นหรือเลิกทำไปเสียเฉยๆ บางทีเขียนหนังสือหรือระบายสีได้นิดเดียวก็เปลี่ยนที่ เพราะเขาขาดสมาธิ แล้วอาจมีปัญหาทางสายตาด้วยการเขียนหนังสือกลับทาง เช่น การเขียนหนังสือจะเขียนกลับจาก “was” เป็น “saw”, “on” เป็น “no” หรือเขียนตัวเลขกลับ จาก “6” เป็น “9” หรือ “12” เป็น “21”เป็นต้น 

  อาการซนไม่อยู่นิ่ง (Hyperactivity) ประกอบด้วย 
1. นั่งไม่นิ่งขยับไปมา บิดตัวไปมา 
2. ลุกจากที่นั่งในห้องเรียนหรือในที่อื่นที่ต้องนั่ง 
3. วิ่งปีนป่านในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม ( มีอาการกระวนกระวาย กระสับกระส่าย) 
4. ไม่สมารถเล่นเงียบๆ คนเดียวได้ 
5. เคลื่อนไหวตลอดเวลา 
6. พูดมากเกินไป 

อาการหุนหันพลันแล่น (Impulsiveness) ประกอบด้วย 
1. ไม่อดทนรอคอย 
2. พูดโพล่งออกมาในขณะที่ยังถามไม่จบ 
3. พูดแทรกขัดจังหวะการสนทนาหรือการเล่น 

     ซึ่งอาการเหล่านี้ต้องปรากฏขึ้น อย่างน้อยใน 2 สถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ในห้องเรียน สนามเด็กเล่น หรือในที่ชุมชน ที่สำคัญข้อมูลเหล่านี้นำเสนอเพื่อให้คุณผู้อ่านใช้สังเกตลูกหลานเท่านั้น อย่างไรก็ตามการวินิจฉัยว่าเด็กเป็นสมาธิสั้นหรือไม่ยังต้องเป็นหน้าที่ของแพทย์ค่ะ 


 



ผู้ตั้งกระทู้ ครูจอย :: วันที่ลงประกาศ 2008-10-16 16:20:07 IP : 124.120.110.97


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.