อากาศร้อนขึ้นทุกวัน  ยิ่งเข้าเดือนเมษายน ขึ้นชื่อว่าเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของปี  เราทุกคนคือเตรียมตัวรับสภาพกันมาทุกปีอยู่แล้ว  แต่ปีนี้โลกเริ่มรณรงค์ให้เราทุกคนตระหนักถึงปัญหาว่า  ที่โลกร้อนขึ้นทุกวันนี้มันไม่ใช่เข้าฤดูร้อนเหมือนเช่นยุคคุณตาคุณยายยังเด็กแล้ว  แต่มันเป็นปัญหาต่อเนื่องของภาวะเรือนกระจกที่เราเคยตื่นตัว ตืนเต้นพูดถึงกันเมื่อสมัยเรา รุ่นคุณพ่อคุณแม่ยังเด็ก   หลายคนตระหนักแล้วแต่คิดว่าเราตัวเล็กนิดเดียวจะแก้ปัญหาโลกร้อนได้อย่างไร   เราคงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่กันแล้วหล่ะ  

หยุด!! โลกร้อน ด้วยสองมือพ่อแม่  โดย ไปบ์

ทำไมปีนี้อากาศร้อนมากขนาดนี้ละครับแม่ ถ้าน้ำแข็งขั้วโลกละลายหมด นกเพนกวินจะไปอยู่ที่ไหนละแม่ ทำไมภูเขาลูกนั้นไม่มีต้นไม้เลยล่ะแม่ ผลกระทบของภาวะโลกร้อนไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไปอีกแล้ว และกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้คุณแม่และลูกน้อยได้มากกว่าที่คิด หากเราเตรียมตัวตั้งรับไม่ทัน ผลกระทบที่น่ากลัวต้องตกอยู่ที่ลูกหลานและคนรุ่นต่อไปจากเรานั่นเอง ภาวะโลกร้อน (Global Warming) คือปรากฏการณ์ที่โลกไม่สามารถระบายความร้อนออกไปได้ เนื่องจากโลกของเราถูกปกคลุมด้วยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gases) ที่มากเกินสมดุลของธรรมชาติ ซึ่งก๊าซเรือนกระจกจะทำการกักเก็บความร้อนไม่ให้สะท้อนออกนอกผิวโลก ทำให้อุณหภูมิในโลกเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทุกสิ่งภายในโลก และหนึ่งในนั้นก็คือ " ตัวคุณแม่และครอบครัวนั่นเอง" การแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาระดับโลกที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน แต่การแก้ไขที่ยั่งยืนและส่งผลดีที่สุดคือการเริ่มต้นทำภายในครอบครัวอย่างต่อเนื่องและจริงจังจากสองมือแม่และลูก Modern Mom จึงได้รวมรวม 99+1 วิธีการลดโลกร้อนมาฝากคุณแม่ยุคใหม่ทุกคนครับ Baby 1.เสื้อผ้า จุกนม ขวดนม และของใช้ต่างๆ ของลูกน้อย เลือกซื้อที่มีคุณภาพสักนิด จะได้ใช้นานๆ ไม่ต้องซื้อบ่อย 2.ใช้นมแม่เลี้ยงลูก สะดวก ช่วยลูกเติบโตอย่างฉลาดและแข็งแรง แถมยังประหยัดเงินได้อีกเพียบ 3.น้ำร้อนสำหรับชงนมลูกใช้ไม่หมดก็เทลงในกระติกเก็บความร้อน แทนการเสียบปลั๊กค้างเอาไว้ 4.นึ่งหรือลวกจุกนม ขวดนม พร้อมกันทีเดียวหลายๆ ใบนอกจากจะไม่ต้องต้มบ่อยให้เหนื่อยแล้ว ยังประหยัดน้ำและไฟอีกด้วย 5.ของใช้ของลูกน้อย คิดสักนิดก่อนซื้อว่าจำเป็นหรือไม่และมีคุณภาพเหมาะสมกับราคาหรือเปล่า เสื้อผ้าบางตัวซื้อมาเก็บแล้วลูกโตเร็วเกินกลายเป็นขยะไม่รู้ตัว 6.เก็บเสื้อผ้าลูกเนื้อบางเบาเก็บไว้รีดหลังจากถอดปลั๊ก หรือจะไม่รีดก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอก 7.ให้ลูกๆ แบ่งเสื้อผ้ากันใส่ แบ่งกันสวย ประหยัดเงินได้โข 8.ใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเมื่อจำเป็นต้องออกไปข้างนอกเท่านั้น หันมาใช้ผ้าอ้อมชนิดผ้าให้มากขึ้น เพื่อลดปริมาณขยะ 9.ซักผ้าอ้อมลูกครั้งละมากๆ ไม่เปลืองน้ำ ไม่เปลืองไฟ 10.อ๊ะ อ๊ะ...อาบน้ำลูกเสร็จแล้ว อย่าเพิ่งทิ้ง เก็บไว้รดน้ำต้นไม้ได้อีกนะจ๊ะ 11.ซื้อแป้ง สบู่ ยาสระผมไซส์ใหญ่ หรือชนิดรีฟิล ให้กับลูกเพราะไม่เปลืองบรรจุภัณฑ์ ที่สำคัญไม่ต้องเสียค่ารถไปซื้อบ่อยๆ 12.เปิดพัดลมแทนการเปิดแอร์ในห้องลูก นอกจากจะช่วยประหยัดไฟ ยังช่วยให้ลูกเสี่ยงเป็นหวัดน้อยลงอีกด้วย 13.หากต้องเปิดไฟในห้องของลูกน้อยเป็นเวลานานๆ เปลี่ยนเป็นหลอดไฟแบบประหยัด รับรอง...ค่าไฟฟ้าลดลงอย่างแน่นอน 14.พาลูกซ้อนท้ายจักรยานไปส่งโรงเรียน สนุกได้รับอากาศสดชื่นยามเช้า แถมยังประหยัดน้ำมัน 15.ลูกน้อยกินยาก ให้ประยุกต์อาหารของพี่คนโต โดยเอาวัตถุดิบเดียวกันแต่ปรุงให้เหมาะกับวัย เช่น เด็กเล็กกินมันบดกับนม แต่เด็กโตอาจเติมหมู ผักเพิ่มไปด้วย 16.ซื้อขนมไทยๆ ห่อใบเตยให้ลูกกิน แทนขนมกรุบกรอบ นอกจากจะราคาไม่แพงแถมยังช่วยโลกได้อีกทางหนึ่ง 17.สอนให้ลูกไม่กินทิ้งกินขว้าง อาหาร 1 อย่างมีต้นทุนการผลิตมหาศาล และเศษอาหารยังกลายเป็นก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ทำลายชั้นบรรยากาศของโลก 18.กระดาษรีไซเคิลที่ว่างอีกหนึ่งหน้า เก็บเอามาให้ลูกวาดภาพระบายสีได้ เพราะอุตสาหกรรมกระดาษก่อมลพิษทางน้ำและเป็นตัวการทำลายป่าไม้ 19.บำบัดอาการป่วย (เบื้องต้น) ของลูกน้อยด้วยวิธีจากธรรมชาติและสมุนไพร ไม่ต้องเสี่ยงกับสารเคมีโดยไม่จำเป็น 20.วันหยุดสุดสัปดาห์นี้พาลูกไปแคมป์ต่างจังหวัดเพื่อให้ใกล้ชิดธรรมชาติ ทำให้เด็กๆ ได้เห็นคุณค่าของธรรมชาติมากยิ่งขึ้น 21.พกกล่องใส่อาหารเล็กๆ ติดไว้เวลาไปกินอาหารนอกบ้าน เพราะเวลาเด็กๆ กินไม่หมดคุณแม่ก็เก็บมาให้เขากินที่บ้านได้อีก 22.สนับสนุนให้ลูกเล่นของเล่นธรรมชาติมากขึ้น เช่น ของเล่นไม้ต่างๆ แทนของเล่นพลาสติก 23.หันมาใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติให้มากขึ้นแทนการใช้สารเคมี เช่น เสื้อ ผ้าอ้อมออร์แกนิกไม่ต้องฟอกย้อม 24.การนวดสัมผัสลูกบ่อยๆ จะช่วยให้เขามีพัฒนาการที่แข็งแรง เพิ่มภูมิต้านทาน ลดการกินยาไปได้ 25.ใช้เปลือกส้มเผาไล่ยุงแทนการใช้ยาฆ่าแมลง เพราะทุกครั้งที่เราฉีดสารเคมีที่เป็นอันตรายจะเข้าสู่ร่างกายลูกน้อยและตัวคุณเอง 26.เตรียมกล่องข้าวน่ารักๆ ลายตัวการ์ตูนที่ลูกชอบ ใส่อาหารให้เขาไปกินที่โรงเรียนแทนการใช้ถุงพลาสติก 27.ทำอาหารให้ลูกทดแทนการซื้อสำเร็จรูป ทั้งประหยัดเงิน และลูกได้รับสารอาหารที่คุณแม่ต้องการเสริมให้ Mom 34.รีดผ้าครั้งละมากๆ เพราะการรีดผ้าแต่ละครั้งเตารีดต้องใช้ไฟจำนวนมากเพื่อทำความร้อน 35.เลือกใส่เสื้อผ้าที่ไม่ต้องรีด เช่น ผ้าฝ้าย เพราะผ้าสามารถคลายตัวได้ จึงดูเรียบโดยไม่ต้องรีด 36.อยู่บ้านใส่เสื้อผ้า 1 ชุดก็พอจะได้ไม่ต้องซักผ้าบ่อยๆ 37.ทำอาหารจากพืชผักผลไม้ตามฤดูกาลหรือเกษตรอินทรีย์ ลดการใช้สารเคมีและช่วยเกษตรกร 38.พกสติไปช้อปปิ้ง ทำรายการให้ถ้วนถี่ก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็น นอกจากจะสิ้นเปลืองแล้ว ของที่ซื้อมายังกลายเป็นขยะโดยไม่จำเป็น 39.รู้จักซ่อมแซม เสื้อผ้าชุดเก่าให้กลับมาใหม่ไม่จำเป็นต้องไปซื้อให้เปลือง 40.Mix&Match เสื้อผ้า รองเท้า เพื่อลดความจำเจ แถมยังได้เสื้อผ้าตามเทรนด์มาใส่อีกด้วย 41.จัดลำดับประเภทเนื้อผ้า ผ้ารีดยากไว้ก่อน ผ้ารีดง่ายไว้หลัง แล้วค่อยๆ ลดความร้อนตามความเหมาะสมจะได้ไม่ต้องปรับความร้อนบ่อยๆ 42.ขับรถให้น้อยลง ระยะทางใกล้ๆ ใช้เดินหรือขี่รถจักรยานแทน เช่น เดินไปซื้อกับข้าวหน้าหมู่บ้าน ถือเป็นการออกกำลังกายอีกทางหนึ่งด้วย 43.ไข่ขาวที่เหลือจากการทำอาหารให้ลูกเล็ก ห้ามทิ้ง...คุณแม่สามารถนำมาพอกหน้าเสริมความงามได้ 44.ลองหย่อนไข่ใส่ลงไปในหม้อหุงข้าว สามารถทำไข่ต้ม หรือไข่ตุ๋นได้พื่อช่วยลดพลังงานเชื้อเพลิง 45.เวลาออกไปข้างนอกพกขวดน้ำติดตัวไปด้วย เพราะพลาสติกเป็นขยะที่ทำลายยาก 46.เลือกซื้อของจากผู้ผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนนโยบายโลกร้อน และเป็นการให้กำลังใจต่อผู้ตั้งใจจริงในการดูแลโลก 47.เตรียมถุงผ้า ภาชนะ เวลาไปซื้อของซื้ออาหาร เพื่อลดปริมาณพลาสติกและโฟมที่ใช้ในการบรรจุสินค้า 48.ตากผ้าแทนการอบด้วยเครื่อง เพราะความร้อนจากการอบกินไฟเป็นจำนวนมาก 49.บริจาคสิ่งของที่ไม่ใช้แล้ว เช่น เสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียนของลูก จักรยาน ให้คนอื่นที่ต้องการ เพื่อลดการผลิตขึ้นใหม่โดยไม่จำเป็น 50.ส่งเอกสารผ่านคอมพิวเตอร์แทนการส่งแฟกซ์เพื่อลดปริมาณกระดาษ   51.ออกกำลังกายด้วยโยคะหรือออกกำลังกายด้วยรูปแบบธรรมชาติ ช่วยแก้ไขโรคบางโรคได้โดยไม่ต้องพึ่งพายาปฏิชีวนะ Family 52.พ่อแม่และลูกร่วมกันปลูกต้นไม้เล็กๆ เดือนละต้น วิธีช่วยโลกร้อนแถมช่วยให้ครอบครัวอบอุ่นขึ้น 53 .ชวนกันปลูกผักสวนครัว ปลูกเอง กินเอง สบายใจ ไม่ต้องกลัวสารเคมี 54.จอดรถทุกครั้งดับเครื่องไปเลย ไม่ต้องติดเครื่องทิ้งเอาไว้ให้เปลืองแบตเตอรี่และน้ำมัน แถมมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมากอีกด้วย 55.หากอากาศไม่ร้อนเท่าไหร่ แค่ใช้พัดลมก็พอ เอาไว้ร้อนๆ อยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกค่อยเปิดแอร์ 56.คอมพิวเตอร์กินไฟสุดๆ เลิกใช้เมื่อไหร่ อย่าลืมปิดเครื่องและถอดปลั๊กด้วยนะจ๊ะ 57.ใครที่กำลังจะมองหาบ้านใหม่ เลือกทิศทางของบ้านและหน้าต่างให้สอดรับกับลมเพื่อช่วยให้บ้านเย็นสบาย 58.ก่อนออกเดินทางไปที่ไหนก็ตาม ศึกษาเส้นทางสักนิดกันหลงทางและช่วยลดระยะทางได้ 59.อย่าลืมปฏิเสธถุงพลาสติกทุกครั้ง บอกแม่ค้าไปว่า "ลดถุงพลาสติก ช่วยลดโลกร้อนได้" 60.บินแบบพอเพียง หากต้องเดินทางใกล้ๆ เก็บเครื่องบินไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะแต่ละเที่ยวเครื่องบินใช้เชื้อเพลิงมหาศาล 61.แยกขวดพลาสติกกับกระดาษ เพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล เอาไปขายได้เงินแถมช่วยโลกร้อนอีกด้วย 62.เปิดแอร์แค่ 25 องศาก็เพียงพอ...รอสักนิด เย็นช้าหน่อยแต่ก็เย็นเหมือนกัน 63.ช่วยกันลดขยะให้ได้ครึ่งหนึ่งจากปริมาณเดิม จะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ได้ 64 .ก่อนเดินทางเตือนคุณพ่อให้เติมลมยางอย่างพอเหมาะ ช่วยประหยัดน้ำมันสักนิด เพราะลิตรละ 30 กว่าบาทแล้ว!! 65 .อย่าเพิ่มภาระให้กับตู้เย็นด้วยการนำของร้อนไปแช่ เพราะตู้เย็นจะทำงานหนักเป็น 2 เท่า 66 .อย่าเปิดตู้เย็นบ่อยๆ จะหยิบอะไร ตั้งสติสักนิดก่อนคิดจะเปิด 67..ก่อนไปข้างนอก ถามสมาชิกในบ้านสักนิด ติดรถไปทางเดียวกันประหยัดน้ำมัน และมีน้ำใจ 68.หันมาใช้บริการรถสาธารณะให้มากขึ้น ประหยัดค่าเดินทาง ประหยัดน้ำมัน 69 .จ่ายเงินค่าสาธารณูปโภคแบบออนไลน์แทนการใช้กระดาษ ช่วยค่ารถเดินทางได้ไม่น้อย 70 .ซื้อเครื่องไฟฟ้าแบบประหยัดไฟเบอร์ 5 ฉลากเขียว (ซึ่งปัจจุบันมีเบอร์ 5 เต็มไปหมด) 71 .ช่วยกันปลูกไผ่ เพราะไผ่เป็นพืชที่ช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ได้มากว่าพืชชนิดอื่น 72 .ไม่ใช้โหมด Stand by กับเครื่องใช้ไฟฟ้า จะไปไหน นานหรือไม่นาน...กดปิดไปเลย 73 .ซื้อรถยนต์ตามขนาดและความจำเป็นของครอบครัว คนน้อยของน้อยไม่จำเป็นต้องซื้อรถตู้ก็ได้ 74 .ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และไม่ใส่ของที่ไม่จำเป็นในรถ ช่วยให้ประหยัดไม่ต้องเติมน้ำมันบ่อยๆ ข้อมูลจากนิตยสาร  : ฉบับที่ 150 เดือนเมษายน พ.ศ.2551    ถ้าท่านใดมีไอเดียหยุดโลกร้อนเพิ่มเติม  อย่าเก็บไอเดียดีๆ ไว้คนเดียวคะ  มาช่วยกันสะสมให้ครบ 100 ข้อ