ReadyPlanet.com


เด็ก ๆ เล่นกัน กับอันตรายที่ต้องระวัง
avatar
Admin


เด็กๆ เล่นกัน..กับอันตรายที่ต้องระวัง

 

 

โดย: รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์

 

 

การเล่นกับเด็กๆ เป็นของคู่กันตามธรรมชาติก็จริง แต่บ่อยครั้งที่เรามักได้ยินข่าวเกี่ยวกับอันตรายจากการที่เด็กๆ เล่นด้วยกัน เพียงเพราะไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแล เรามาป้องกันเหตุการณ์ที่เป็นอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับลูกน้อยกันเถอะ

 

คงไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกกลายเป็นมนุษย์โดดเดี่ยวไร้เพื่อน และอยู่คนเดียวอย่างหงอยเหงาแน่นอนครับ... เพราะความจริงมีอยู่ว่า ผู้ที่จะประสบความสำเร็จและมีความสุขในชีวิตนั้นย่อมจะมีญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และผู้คนทั้งหลายให้ความรัก ความชื่นชมและส่งเสริมสนับสนุน

 

ดังนั้น พ่อแม่คงต้องกลุ้มใจ และหาทางแก้ไขอย่างแน่นอนครับ หากคุณครูบันทึกไว้ในสมุดพกของลูกว่า ลูกเป็น...เด็กเงียบ ไม่มีเพื่อน ไม่ยอมเล่นกับใคร ชอบแยกตัว...

 

พ่อแม่บางท่านจึงถึงกับส่งลูกให้เข้าเรียนตั้งแต่แค่ 2 ขวบ จริงๆ แล้วเด็กวัยก่อน 2 ขวบ ยังชอบเล่นคนเดียวครับ โดยอยากให้พ่อแม่ดูแลอยู่ใกล้ๆ แม้จะมีเด็กวัยเดียวกันนั่งเล่นอยู่ใกล้ๆ ลูกก็มักได้แค่มอง แต่เมินซะเถอะที่จะเขยิบเข้าไปนั่งเล่นด้วย

 

เหตุเกิดเมื่อ...เด็กเล่นกัน

เมื่ออายุ 2 ขวบขึ้นไปนั่นแหละครับ เด็กๆจึงจะเริ่มอยากมีเพื่อนกับเขาบ้าง และหากคุณพ่อคุณแม่คิดจะปล่อยให้เด็กๆในวัยนี้เล่นกันเองล่ะก็ ต้องเตรียมตัวไว้ก่อนเลยครับว่าอาจเกิดเหตุการณ์เหล่านี้...

 

*ขาดทักษะ...เล่น เด็กๆจะเริ่มอยากมีเพื่อน เจ้าหนูบางคนออกอาการคึกคักทันทีที่เห็นเด็กด้วยกันเข้ามาใกล้ ๆ แถมเดินเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนล้มเผละไปด้วยกันอย่างทุลักทุเล... นั่นเพราะลูกยังขาดทักษะ ยังแยกแยะไม่ออกว่า การเล่นกับ “คน”กับการเล่นตุ๊กตานั้น...มันต่างกันตรงไหน?...ผู้ปกครองก็ต้องระมัดระวังสำหรับเด็กเล็กๆครับ

 

*บู๊แย่งของ เด็กวัยนี้ยัง “ขี้หวง” อีกต่างหากครับ ใจน่ะ...อยากจะเล่นกับคนอื่น แต่ถ้าใครขืนแตะของเล่นของหนูล่ะก็...ได้บู๊กันสุดฤทธิ์แน่ครับ แต่ในขณะเดียวกันของเล่นของคนอื่นก็ช่างน่าดึงดูดใจซะเหลือเกิน ฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่จะต้องคอยดูแลอย่าให้คลาดสายตาเชียวครับ ไม่งั้น...เด็กๆอาจแย่งหรือดึงของเล่นจากมือของอีกฝ่าย จนล้มคว่ำ หน้าหรือศีรษะกระแทกพื้นได้

 

*อยากเล่นแบบพี่ๆ กับพวกรุ่นพี่ๆ ก็เช่นกันครับ แม้เจ้าตัวน้อยจะชอบนักที่จะเข้าไปในวงของเด็กโตกว่า แต่นั่นก็เป็นอีกสิ่งที่พ่อแม่พึงระวัง...เพราะเจ้าตัวเล็กมักจะเข้าไปป่วนทำให้พี่ๆวงแตก จนอาจโดนผลักหรือดันออกไปด้วยความรำคาญ

 

*หนูน้อยจอมพลัง กระทั่งสู่วัย 4 ขวบนั่นแหละครับ จึงเป็นวัยแห่งการคบเพื่อนอย่างแท้จริง เด็กวัยนี้จะรู้สึกดีที่อยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ พวกเขาจะเล่นกันอย่างสนุกสนาน แม้ว่าพ่อแม่ควรให้อิสระแก่ลูกให้เขาได้แสดงออก แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังก็คือ ...เด็กวัยนี้มักจะแสดงพลังกันอย่างสุดๆ เช่น ตะโกน วิ่ง กระโดด ปีนป่าย ผลักกัน โดยยังไม่เข้าใจว่า บางครั้งกลายเป็นเรื่องที่เสี่ยงต่ออันตรายที่ตนเองก็คาดไม่ถึง

 

*ซ่อนแอบ... แม้ต่อมาเมื่อเขาอยู่ในวัย 5 ขวบขึ้นไป จะเริ่มรู้จักการแบ่งปัน การรอคอย และไม่ “บ้าพลัง”เหมือนที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ ในหลายๆสถานการณ์ว่า กำลังตกอยู่ในความเสี่ยง โดยเฉพาะการเล่นยอดนิยมอย่าง...เล่นซ่อนแอบ

เวลาราว 6โมงเย็น ที่ห้องนอนของน้องอ้น( 5 ขวบ) ซึ่งอยู่บนชั้น 5 ของคอนโดแห่งหนึ่งขณะนั้นน้องอ้น และพี่สาว (7ขวบ) น้องสาว (4ขวบ) ตกลงกันว่าจะเล่นซ่อนแอบกัน โดยพี่สาวเป็นคนปิดตา แล้วน้องทั้งสองเป็นฝ่ายซ่อน

...เมื่อพี่สาวเปิดตา แล้วเริ่มหาน้อง ก็ได้พบน้องสาวที่ใต้เตียง จากนั้นทั้งพี่สาวและน้องสาวก็ช่วยกันหาน้องอ้น แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ เด็กทั้งสองจึงวิ่งไปบอกน้าสาวซึ่งขณะนั้นกำลังนั่งเล่นอยู่ที่เก้าอี้ม้าหินหน้าบ้าน

  

น้าสาวเดินหาน้องอ้นทั่วบ้านก็ไม่พบ กระทั่งเมื่อเดินขึ้นไปบนชั้นลอยแล้วชะเง้อออกไปมองนอกหน้าต่างหลังบ้าน...ก็ได้พบ...น้องอ้นนอนนิ่งอยู่บนพื้นเบื้องล่าง หมดสติ ...... ภายหลังการส่งเข้ารับการรักษาพยาบาลจนฟื้นคืนสติแล้ว ก็ทราบว่า...

ในขณะที่เด็กทั้งสามเล่นซ่อนแอบกัน น้องอ้นขึ้นไปยืนบนเตียง(ที่ตั้งชิดติดหน้าต่าง(ประเภทกระจกบานเลื่อน ไม่มีเหล็กดัด) น้องอ้นได้เปิดหน้าต่างบานเลื่อนออก (โดยผู้ใหญ่อาจจะลืมล็อก หรือเด็กอาจจะเปิดล็อกเองก็ได้) จากนั้นน้องอ้นขึ้นไปนั่งที่ขอบหน้าต่าง แล้วเลื่อนผ้าม่านมาบังตัวเพื่อซ่อนตัวไม่ให้เห็น…แล้วก็หงายตกลงไปกระแทกพื้นเบื้องล่าง…

 

*ของเล่นเป็นเหตุ “ของเล่นอันตราย” ที่แม้ทางการจะประกาศห้ามจำหน่ายแล้ว แต่ยังเห็นวางขายกันเกร่อเหมือนท้าทายกฎหมาย นั่นคือ “ปืนอัดลม”ที่ยังคงพบเห็นเด็กๆวิ่งไล่ยิงนก และเอามายิงกันเองเป็นที่ตื่นเต้นสนุกสนาน แต่ในที่สุดก็ต้องหมดสนุก ทันทีที่มีคนเจ็บหรือตาย เพราะเจ้าลูกกระสุนพลาสติกเม็ดเล็กๆก็จริง แต่ความเร็วและความแรงของมันมีพลังที่จะพุ่งไปกระแทกลูกตาทำให้เกิดเลือดออกในช่องลูกตาได้ ดังเช่น...

คุณแม่รายหนึ่งที่เปิดเผยอย่างเจ็บปวดหัวใจว่า ลูกต้องมาสูญเสียการมองเห็นบางส่วน เพราะความไม่รู้และไปหาหมอล่าช้าหลังจากที่ลูกเล่นปืนอัดลม ยิงกันกับพี่ชายของเขาเอง แล้วคงโดนกระสุนปืนอัดลมกระแทกเข้าที่ตาพอดี หลังจากนั้นมีอาการปวดตา น้ำตาไหล แต่ไม่ยอมบอกแม่เพราะกลัวแม่ว่า นอนร้องไห้อยู่ทั้งคืน เช้าถึงมาบอก ทีแรกพอรู้แม่ก็บ่นว่าอยู่นาน แล้วเอายาหยอดตามาหยอดให้ พอสายๆเห็นว่า ไม่ดีขึ้นและลูกบอกว่าตามัว จึงพาไปโรงพยาบาล แพทย์ตรวจแล้วพบว่ามีเลือดออกในลูกตาจำนวนมาก ต้องรีบทำการรักษาพยาบาล ...

 

*เล่นน้ำ...อันตราย อีกกรณีที่น่าห่วงไม่น้อย นั่นก็คือ เด็กๆที่ว่ายน้ำแข่งกัน โดยเด็กเล็กมักจะว่ายแข่งกันดำอึดแข่งกันในสระว่ายน้ำ กระทั่งเป็นตะคริว ว่ายไม่ได้จมน้ำ หรือหายใจเร็วๆก่อนการดำน้ำแข่งทำให้ระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดลดต่ำ เมื่อกลั้นหายใจนานๆ ศูนย์ควบคุมการหายใจในสมองก็ยังไม่สั่งการทั้งๆที่ออกซิเจนลดต่ำจนทำให้หมดสติแล้ว

ในขณะที่เด็กโต เด็กวัยรุ่นชอบนักที่จะแข่งกันว่ายน้ำทะเล ....ดังกรณีนี้...“ แล้วน้ำทะเลก็เริ่มขึ้น คลื่นลมแรงมาก อากาศก็มืดครึ้มลงทุกขณะ แต่พวกเรายังคงหลับหูหลับตาลุยว่ายแข่งกันต่อไปไม่หยุด เพื่อนทั้งสามคงเหนื่อยกันมากจนหมดแรง และจมน้ำทะเลหายไปต่อหน้าต่อตา ผมเป็นเพียงคนเดียวที่โชคดี เพราะเหยียบโขดหินไว้ได้...”

 

อันตรายป้องกันได้

“การเล่น” คือ ของขวัญธรรมชาติสำหรับเด็ก ที่ช่วยพัฒนาการทางสมอง เพื่อเสริมสร้างความฉลาดทั้งทางปัญญาและอารมณ์ โดยเฉพาะการเล่นกับเพื่อนๆ ก็ยิ่งสร้างเสริมทักษะแห่งการมีมนุษยสัมพันธ์ ลดความขัดแย้ง เห็นแก่ตัว ผึกฝนการเสียสละ รู้จักการให้ การแบ่งปันผู้อื่น มึความเอื้ออาทรต่อกัน แน่นอนอยู่แล้วครับว่า ... ผู้ใหญ่ควรส่งเสริมสนับสนุน ให้เด็กๆรู้จักการเล่น และเล่นด้วยกันกับเพื่อนๆ แต่มีข้อแม้ว่า...

 

จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย เช่น ไม่มีที่สูง ไม่มีแหล่งน้ำ ไม่มีรถยนต์ไม่มีสิ่งของร้อน ไฟฟ้า หรือ ไม่เสี่ยงต่อของหนักหล่นทับ ในพื้นที่ที่เด็กเล่น

 

เลือกของเล่นที่เหมาะสม ผู้ปกครองควรเลือกของเล่นที่เหมาะสม ไม่เสี่ยงต่อการอุดตันทางเดินหายใจ สารพิษ สิ่งของแหลมคมหรือวัตถุระเบิดให้กับลูก

 

มีผู้ใหญ่คอยดูแล เด็กๆควรจะมีผู้ใหญ่ดูแลตามวัยให้เหมาะสม ในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 3 ปีต้อง อย่าให้คลาดสายตา ต้องอยู่ในระยะที่คว้าถึง ในเด็ก 3-6 ปี ต้องอยู่ในระยะที่มีผู้ดูแลมองเห็น ได้ยินเสียง และเข้าถึงได้....!

 

การเล่นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเด็กๆแน่นอนครับ แต่นั้นก็หมายถึงความเสี่ยงในการเกิดอันตรายเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น เพื่อความปลอดภัย อย่าวางใจให้เด็กๆเล่นกันเองโดยไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแลอย่างเด็ดขาดครับ

..............................................................

จาก: นิตยสารรักลูก


ผู้ตั้งกระทู้ Admin :: วันที่ลงประกาศ 2011-09-07 23:07:57 IP : 58.11.239.222


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.